นักลงทุน กังวลผลกระทบจากดอกเบี้ยขาขึ้น ดึงน้ำมัน-ทอง ร่วงลงแรง

           หลังจากที่ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 สู่ระดับร้อยละ 5.00 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 เพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังจากที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงานเดือน พ.ค.66 ดีดตัวสู่ระดับร้อยละ 7.1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.35

          ราคาน้ำมัน ขยับลง ปิดตลาดวันพฤหัสบดี(22มิ.ย.66) นักลงทุนกังวลผลกระทบจากความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางอังกฤษที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดหมาย ปัจจัยนี้ฉุดทองคำแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนส.ค.66 ลดลง 3.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

-เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนส.ค.66 ลดลง 2.98 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

           ส่วนเรื่องอุปทาน คลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 3.8 ล้านบาร์เรล เหลือ 463.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ คาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล ส่วนสต๊อกเบนซิน เพิ่มขึ้นราว 480,000 บาร์เรล เป็น 221.4 ล้านบาร์เรล และคลังสำรองน้ำมันกลั่น ในนั้นประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำความร้อน เพิ่มขึ้น 430,000 บาร์เรล เป็น 114.3 ล้านบาร์เรล

          หลังจากที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ราคาทองคำ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี(22มิ.ย.66) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

-ราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนส.ค.66 ลดลง 21.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,923.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

#ธนาคารกลางอังกฤษ

#ขึ้นดอกเบี้ย

#น้ำมันโลก