การติดตามโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ บริเวณหมู่บ้านตายอย ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ของนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีและนาย ดนุชา สินธวานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหรือ กปร พร้อมคณะเพื่อชมสาธิตการทำนาที่เรียกว่า การแกล้งข้าว หรือการทำนาเปียกสลับแห้ง ของนาย ทองสุข สุราช ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำและเกษตรกรผู้รับประโยชน์จากอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม นายทองสุข เล่าให้ฟังว่า เพิ่งทดลองการทำนาแบบการแกล้งข้าวเป็นครั้งแรก โดยทดลองในพื้นที่นา 1 แปลง ซึ่งจะงดให้น้ำกับข้าวและจะไม่มีน้ำขังในนาข้าวตลอดช่วงการทำนา จนกว่าจะถึงฤดูเก็บเกี่ยว เพื่อเทียบกับอีก 1 แปลงที่ทำนาแบบปกติโดยให้น้ำอยู่ในนาข้าวว่าจะมีผลเป็นอย่างไร ส่วนตัวดูจากพฤติการณ์ในขณะนี้คาดว่าแปลงที่แกล้งข้าวอาจจะได้ผลดีกว่าหรืออย่างน้อยคงดีเท่ากับแปลงที่ให้น้ำแบบปกติ สำหรับสาเหตุที่ทดลองทำนาข้าวแห้งสลับเปียกก็เพื่อหาผลผลิตใหม่ๆรวมทั้งทดลองประหยัดน้ำ เพื่อนำน้ำที่จะใช้เลี้ยงข้าวไปเก็บไว้ใช้เลี้ยงนาไร่อื่นในฤดูถัดไปแทน และหากได้ผลดีก็คงทำต่อไปเรื่อยๆ ส่วนในปีนี้ก็ทำนาปรังได้ และทำนาปรังมาทุกปี เพราะพื้นที่นี้อยู่ในเขตชลประทานที่ได้รับน้ำมาจากอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่
ด้านนายอนันต์ ปรีชาวุฒิวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุบลราชธานี เปิดเผยว่า อ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2539 และสร้างระบบส่งน้ำเพิ่มอีกจนแล้วเสร็จในปี 2545 มีระบบส่งน้ำกว่า 13 สาย พื้นที่ส่งน้ำรวม 31 กิโลเมตร มีผู้ใช้น้ำอยู่ 2 กลุ่มหลัก ใช้เลี้ยงหมู่บ้านต่างๆกว่า4 หมู่บ้าน ส่วนความจุของอ่างฯที่ระดับกักเก็บอยู่ที่ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร และในปีนี้ทางรัฐบาลมีนโยบายประหยัดการใช้น้ำ กรมชลประทานจึงมีแนวคิดร่วมมือกับเกษตรกรในการหาวิธีประหยัดน้ำจึงมีโครงการแกล้งข้าว หรือการทำนาเปียกสลับแห้ง ซึ่งปีที่แล้วก็มีการทดลองและได้ผลดี สามารถเพิ่มผลการผลิตในพื้นที่นาอื่นๆได้จากการนำน้ำที่เหลือไปใช้ ทั้งยังช่วยประหยัดน้ำลงได้กว่าร้อยละ 30 สำหรับปีนี้ไม่ได้งดทำนาปรัง เพราะน้ำมีปริมาณเพียงพอ
ธีรวัฒน์