บีบีซีรายงาน นายจอห์น เดอลูรี อาจารย์สาขาวิชาจีนศึกษา จากมหาวิทยาลัยย็อนเซในกรุงโซล เกาหลีใต้เปิดเผยว่า ถ้าเพื่อนบ้านของจีน ไม่ว่าจะมีชายแดนติดต่อกับจีนหรืออยู่ห่างไกล สามารถจะส่งข้อความไปถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนและประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา อาจจะส่งข้อความในทำนองว่า ขอให้ผู้นำทั้งสองคนช่วยแก้ไขปัญหาพิพาทต่างๆให้เสร็จสิ้นได้หรือไม่
คนทั่วโลกจับตามองดูการเยือนกรุงปักกิ่งของนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยเฉพาะเพื่อนบ้านของจีน จับตาดูท่าทีระหว่างสหรัฐฯกับจีนมากเป็นพิเศษ โดยช่วงบ่ายวานนี้ นายบลิงเคน พบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในมหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง ใช้เวลาพบปะ 35 นาที นับเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯคนแรกที่พบปะกับนายสีในกรุงปักกิ่งนับแต่ปี 2561
เพื่อนบ้านส่วนใหญ่ของจีนต่างรู้สึกโล่งอก ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯในมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์และออสเตรเลีย ตลอดถึงกลุ่มอาเซียน ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าสำคัญทั่วโลก ไปจนถึงหมู่เกาะเล็กในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งทั้งสหรัฐฯและจีนต่างแข่งขันกันแผ่อิทธิพลทางทหารและเศรษฐกิจ
นายเดอลูรี กล่าวว่า ทุกคนเริ่มเรียนรู้ที่จะปรับตัวอยู่กับความเป็นคู่ปรปักษ์จีน-สหรัฐฯ แต่ไม่มีใครอยากจะเลือกข้างอยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจน และความรู้สึกโล่งอกเกิดจากการที่พวกเขาประเมินว่า มหาอำนาจทั้งสองเริ่มทำตัวเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น โดยนายบลิงเคนยินดีที่ทั้งสองฝ่ายเปิดการติดต่อสื่อสารของเจ้าหน้าที่ระดับสูงตามปกติอีกครั้ง ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนเห็นด้วยกับเรื่องการฟื้นฟูสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน แต่ยอมรับว่า มีหลายเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นต่างกัน
นายเดอลูรี กล่าวว่าการเยือนครั้งนี้แม้จะไม่มีผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม แต่อย่างน้อยแสดงให้เห็นว่า จีนและสหรัฐฯพยายามจะลดความตึงเครียดและคงติดต่อเจรจากันอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะเกิดผลดีต่อคนทั่วโลกในภาพรวม แต่ปัญหาใหญ่ที่ทั้งสองฝ่ายเห็นไม่ตรงกันยังมีอยู่ โดยเฉพาะจีนพูดชัดเจนว่าเรื่องไต้หวันถือเป็นผลประโยชน์สำคัญของจีน จึงมีคำถามว่า สองมหาอำนาจทางทหารและเศรษฐกิจของโลกจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไรต่อไป
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯใกล้เข้าสู่ช่วงการณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในปีหน้าทุกขณะ ขณะที่คู่แข่งจากพรรครีพับลิกันกล่าวหานายไบเดนจากพรรคเดโมแครตว่าอ่อนข้อต่อจีนมากเกินไป
นอกจากนี้ ผลสำรวจของมูลนิธิยูเรเซีย กรุ๊ป ฟาน์เดชัน (Eurasia Group Foundation)เมื่อเร็วๆนี้ ระบุว่ากว่าร้อยละ 90 ของผู้ตอบแบบสอบถามในเกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์และสิงคโปร์ รู้สึกหวั่นวิตกเรื่องการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างจีนและสหรัฐฯ เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบสอบถาม ระบุว่า ความตึงเครียดในภูมิภาค เป็นปัญหาเร่งด่วนที่สุดที่ประเทศของพวกเขาประสบอยู่ในปัจจุบัน
#รื้อฟื้นสัมพันธ์
#สหรัฐฯจีน