ปธ.FETCO เปิด 3 ปัจจัยท้าทายรัฐบาลใหม่ สร้างเสน่ห์ให้ตลาดหุ้นไทย

           ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยน่าสนใจ มีเสน่ห์ดึงดูดเงินให้เข้ามาในประเทศ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) สรุปปาฐกถาพิเศษ “นโยบายรัฐบาลใหม่ ชี้ชะตา Fund Flow ตลาดหุ้นไทย” ในงานสัมมนา "Investment Forum : New Chapter, New Opportunity Fund Flow ว่ามี 3 ความท้าทายรออยู่ ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า  

(1) รักษาแรงส่งของเศรษฐกิจ เช่น เน้นส่งออกไปที่จีน เพราะประเทศจีนกำลังฟื้นตัวจากโควิด-19 และเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมายอดการส่งออกของไทยลดลงในทุกประเทศ แต่กลับกัน การส่งออกไปประเทศจีนมีเพิ่มขึ้น รวมทั้งต้องมีการปลดล็อคเรื่องการท่องเที่ยว เร่งรัดโครงการลงทุนภาครัฐต่างๆ ที่อนุมัติไปแล้ว และดูแลค่าเงินบาทให้อ่อน เพราะถ้าเงินบาทแข็งเกินไปจะกระทบ ภาคเกษตร ภาคการส่งออก ภาคการท่องเที่ยว

(2) สร้างอนาคตให้กับประเทศ ต้องลดอุปสรรคต่างๆ ทางกฏหมาย (Regulatory Guillotine) ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติ สร้าง Startup-Hub for ASEAN ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียนอย่างแท้จริง ก้าวขึ้นไปบน New S-Curve รวมทั้งให้สานต่อโครงการที่มีอยู่อย่างการเดินหน้าเรื่องพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ EEC และ SEC

(3) พัฒนาอย่างสมดุล ลดความขัดแย้งระหว่างเมืองกับชนบท เน้นการสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก เน้น Empower ส่งเสริมประชาชน และพัฒนาให้ยืนบนขาของตัวเองได้ เพราะการแจกเงินไม่ใช่คำตอบ

           ต้องอย่าลืมว่า หัวใจสำคัญ คือ ความมีเสถียรภาพ เพราะไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เมื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้วขอให้มี “เสถียรภาพ” เพื่อให้เอกชนและตลาดทุนสามารถเดินไปข้างหน้าได้  ถ้าทำสิ่งเหล่านี้ได้เงินจะไหลเข้าประเทศเอง แต่ถ้าเราไม่ทำ ประเทศเราก็มีเสน่ห์น้อยลงไปเยอะเลย

           นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปี 2566 มีเงินไหลออกอยู่ที่ -2,917.8 ล้าน USD ตรงกันข้ามกับ ตลาดตราสารหนี้ที่มีเงินไหลเข้าอยู่ที่ +675.9 ล้าน USD สาเหตุที่ทำให้หุ้นไทยมีเงินไหลออกและทำผลงานได้ไม่ดี เนื่องจาก ถ้าย้อนไปดูข้อมูลเมื่อปีที่แล้วจะพบว่า ไทยเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ทำผลงานได้ดี โดยที่ SET Index บวก 0.7% ขณะที่ สหรัฐฯ NASDAQ ติดลบ 33.1% เวียดนาม VN Index  ติดลบ 32.8% รวมทั้งฮ่องกง จีน ทุกคนติดลบหมดเลย 

           ทำไมปีที่แล้ว “เงินไหลเข้า” ตลาดหุ้นไทย สาเหตุเป็นเพราะปีที่แล้วนักลงทุนต่างมองหาหลุมหลบภัย (Safe Haven) เนื่องจากมีมรสุมการลงทุนครั้งยิ่งใหญ่ของโลกในรอบ 40 ปี ไม่ว่าจะนำเงินไปอยู่ที่ไหนก็เสียหาย แม้กระทั่งในตลาดพันธบัตรรัฐบาลก็ตาม ดังนั้น ตลาดหุ้นไทยจึงถูกมองว่าเป็นหลุมหลบภัย เพราะยังเป็นบวกอยู่ได้ นักลงทุนจึงพากันใช้ตลาดหุ้นไทยเป็นหลุมหลบภัยนั่นเอง

            ส่วน ทำไมปีนี้ “เงินไหลออก” จากตลาดหุ้นไทย ต้องบอกว่า ณ วันนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว มรสุมได้พัดผ่านไปแล้ว ในขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นของประเทศต่างๆ ก็กำลังคึกคัก หมายความว่า คุณค่าของหลุมหลบภัยก็ได้หมดไปเช่นกัน จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เงินไหลออกจากไทย เพราะนักลงทุนต้องการไปแสวงหาผลตอบแทนที่เหมาะสมกว่า  

#สภาธุรกิจตลาดทุนไทย

#FETCO

CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ FETCO:Federation of Thai Capital Market Organizations