ยูเอ็น ระบุ รัสเซียปฏิเสธความช่วยเหลือ จากเหตุเขื่อนคาคอฟกาแตก เสียชีวิต 52 ราย

19 มิถุนายน 2566, 21:14น.


          สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า รัสเซียได้ปฏิเสธความช่วยเหลือจากยูเอ็นในการช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เขื่อนคาคอฟกา หนึ่งในเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในยูเครน แตกเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่มเป็น 52 ราย เจ้าหน้าที่ของรัสเซีย ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 35 รายในบริเวณที่รัสเซียยึดครอง ขณะที่ฝั่งยูเครน เผยว่ามีผู้เสียชีวิต 17 ราย และสูญหาย 31 ราย ประชาชนกว่า 1.1 หมื่นคน ถูกอพยพออกจากพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายยึดครอง



          ยูเอ็นได้วิงวอนให้รัสเซียปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เดนิส บราวน์ ผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมของยูเอ็นในยูเครน กล่าวในถ้อยแถลงว่า “ยูเอ็นจะยังคงทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อยื่นมือเข้าช่วยทุกคน รวมถึงผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากความเสียหายของเขื่อน ผู้ซึ่งกำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ตาม”



           เหตุการณ์เขื่อนคาคอฟกาแตกยังส่งผลให้ทางการเมืองโอเดสซาประกาศปิดชายหาดทะเลดำ โดยห้ามไม่ให้ว่ายน้ำหรือรับประทานปลาและอาหารทะเล เนื่องจากมีน้ำเสีย เจ้าหน้าที่ของยูเครน กล่าวว่า ผลของการตรวจสอบน้ำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพบว่ามีเชื้อแบคทีเรียซาลโมเนลล่า และเชื้อก่อโรคอื่นๆ ในระดับที่เป็นอันตราย



          ขณะที่ภาพถ่ายและข้อมูลที่สำนักข่าวเอพีได้รับแสดงให้เห็นว่ารัสเซียมีทั้งเครื่องมือ แรงจูงใจ และโอกาสในการทำลายเขื่อนคาคอฟกา ภาพถ่ายจากโดรนของยูเครน ลงวันที่ 28 พฤษภาคม เผยให้เห็นว่ามีรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่บนเขื่อนซึ่งถูกตัดหลังคาออกเกือบหมด เผยให้เห็นถังขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะเป็นระเบิดบรรจุอยู่ในห้องโดยสารของรถ เจ้าหน้าที่ของยูเครน 2 คน กล่าวว่า กองทัพรัสเซียได้ประจำการอยู่ในพื้นที่สำคัญภายในเขื่อนซึ่งทางฝั่งยูเครนอ้างว่าเป็นศูนย์กลางของการระเบิดที่ทำให้เขื่อนคาคอฟกาแตก



 



#เขื่อนคาคอฟกาแตก



#รัสเซียยูเครน



 



 

ข่าวทั้งหมด

X