สนช.พบชาวตราดติดตามมาตราการดูแลอาชีพประมง

หลังจากที่ในช่วงเช้า นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. คนที่ 2 พร้อมด้วยสมาชิก สนช. และคณะ เดินมาที่จังหวัดตราด เพื่อติดตามรับฟังปัญหาของประชาชน ในโครงการ สนช. พบประชาชน ที่ศาลากลางจังหวัดตราด และได้พูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดตราดเสร็จสิ้น ในช่วงบ่ายนายพีระศักดิ์ และคณะ ก็เดินทางไปรับฟังปัญหาของประชาชน ในพื้นที่ในเทศบาลตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ซึ่งเป็นอีกจุดที่คณะลงไปติดตามเพื่อรับปัญหาของประชาชน
นายชัยวัฒน์ โอชนานนท์ นายอำเภอคลองใหญ่ รายงานสถานการณ์ข้อมูลของอำเภอคลองใหญ่ ว่า อำเภอคลองใหญ่มีพื้นที่ทางบก 50.2ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 30,000 ไร่ แบ่งการปกครองออกเป็น 3ตำบล คือ ตำบลไม้รูด ,ตำบลคลองใหญ่ ,ตำบลหาดเล็ก มีประชากร 22,700คน ซึ่งประชากรในพื้นที่ประมาณ 20,000คน ทำประมง หรือร้อยละ 80ของประชากรทั้งหมดในพื้นที่ และมีเรือประมงทั้งหมด 828 ลำหรือคิดเป็น 1ใน 4ของเรือประมงที่มีอยู่ในจังหวัดตราดทั้งหมดที่มีประมาณ 3,200ลำ แต่ถึงอย่างไรด้วยที่ในพื้นที่ของอำเภอคลองใหญ่เป็นพื้นที่เรียบริมทะเล และอยู่ติดกับประเทศกัมพูชา จึงมีแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาเข้ามารับจ้างในภาคประมงในพื้นที่นี้เกือบ 20,000คน แต่ถึงแม้จะมีแรงงานต่างด้าวรับจ้างในภาคประมงในพื้นที่มีจำนวนมาก แต่ก็มีการบริหารจัดระเบียบภาคประมงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากเรือประมงในอำเภอคลองใหญ่ จะมีการจดทะเบียบทุกลำ เพื่อสะดวกในการตรวจสอบก่อนที่จะอนุญาติให้ทำประมงในพื้นที่ได้ นอกจากการจัดระเบียบเรือประมงแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มักจะมีการประชาสัมพันธ์วิธีการทำประมงอย่างถูกต้องโดยไม่เป็นการทำลายทรัพย์กรในทะเล ซึ่งหากใครทำผิดกติกา การทำประมงในพื้นที่ ก็จะมีการลงโทษตั้งแต่ขั้นตักเตือน แนะนำ ไปจนถึงขั้นเด็ดขาดคือการยกเลิกทำประมงในพื้นที่ ซึ่งนอกจากวิธีการต่างๆในการจัดระเบียบประมงในพื้นที่แล้ว ชาวประมงในอำเภอของใหญ่ก็จะมีการร่วม โดยรวมตัวกันเป็นกลุ่มเครือข่ายในนามอาสาประมงเฝ้าระวังเหตุ เพื่อคอยเป็นหูเป็นตา ป้องกันเฝ้าระวังแจ้งเหตุหากพบการทำมงที่ผิดกฎหมาย หรือเรื่องต่างๆที่ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติในทะเลน่านน้ำตราดเสียหาย โดยจะแจ้งมายังประมงอำเภอ หรือติดต่อผ้านเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องโดยวิธีการโทรแจ้งเหตุ หรือ ส่งภาพ ข้อมูลมาในโปรแกรมไลน์ ซึ่งวิธีนี้เป็นการที่ยืนยันหาพบการกระทำผิดได้ดีและเร็วที่สุด นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้การประมงในอำเภอคลองใหญ่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี

นอกจากมาตราการต่างๆแล้ว ในอนาคตตั้งแต่ วันที่ 6พฤษภาคม เดือนหน้า ประมงอำเภอจะมีการตั้งจุดตรวจถาวร เพื่อตรวจสอบว่า ประมงที่ออกไปทำประมงในทะเลว่า ถูกต้องตามกฎระเบียบข้อบังคับการทำประมงหรือไม่ เช่น การตรวจสภาพเรือ จำนวนลูกเรือทั้งตอนออกไป และขากลับเข้าฝั่ง รวมถึงตรวจอุปกรณ์การทำมงเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อระบบนิเวศในทะเล

ทั้งนี้หลังจากที่นายพีระศักดิ์ และคณะ รับฟังปัญหาของประชาชน ในพื้นที่เทศบาลตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดจันทบุรี แล้วเดินทางไปที่ จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ซึ่งเป็นชายแดนไทย -กัมพูชา ในอำเภอคลองใหญ่ ห่างจากเทศบาล ประมาณ 5กิโลเมตร เพื่อดูบรรยากาศการเดินทางเข้า ออกของประชาชนทั้ง 2ประเทศ และการค้าตามนาวชายแดน ซึ่งส่วนมากจะขายสินค้าทะเลทั่วไป และเป็นจุดกระจายสินค้าเกษตรตามฤดูกาล ซึ่งในช่วงนี้สินคค้าเกษตรที่ทีจำหน่ายมาก ก็เป็นช่วงของทุเรียน