นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.แถลงผลการประชุม กกต.ว่า สำนักงาน กกต.ได้เสนอผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขต 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน พร้อมผลการตรวจสอบเบื้องต้นว่าการเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่ โดย กกต.ตรวจสอบรายงานความเห็นของผู้ตรวจการเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัด , รายงานการตรวจสอบสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ได้รับเลือกตั้ง และตรวจสอบเรื่องร้องคัดค้านของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร รวมทั้งการตรวจสอบเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.ของกลุ่มภารกิจงานสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย โดยที่ประชุม กกต.ตรวจสอบและพิจารณาแล้ว มีมติให้ประกาศผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต 400 เขต บัญชีรายชื่อครบ 100 คน
โดยให้ว่าที่ ส.ส. มารับหนังสือรับรอง ได้ตั้งแต่พรุ่งนี้ วันที่ 20-24 มิ.ย.66 เวลา 8.30น. -16.30น. ห้องประชุม 201 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อไปรายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตามขั้นตอนต่อไป
แต่ทั้งนี้ กกต. ยังมีอำนาจในการพิจารณาสืบสวนไต่สวน ตามมาตรา 138 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 โดยหลังการประกาศรับรองผลแล้ว หากมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า การเลือกตั้งเขตเลือกตั้งใด มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม กกต.จะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ , ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง หรือ รู้เห็นกับการกระทำของบุคคลอื่น กกต.จะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง ซึ่งการที่ กกต.ประกาศรับรองผลไปก่อน เนื่องจากกระบวนการสืบสวนสอบสวนผู้ถูกร้องเรียนอาจดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และเห็นว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เนื่องจากขณะนี้มีการอ้างพยานหลักฐานเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยมี ส.ส.318 คน ที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน และ 82 คนที่มีเรื่องร้องเรียน เพิ่มขึ้นจากจำนวนที่ปรากฏในเอกสารหลุดเมื่อสัปดาห์ก่อน เพราะมีคนร้องเข้ามาเพิ่ม
ส่วนจำนวนคะแนนเสียงที่เป็นคะแนนดี นำมาคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมีทั้งสิ้น 31,522,698 คะแนน โดยสัดส่วนคะแนนต่อ ส.ส. 1 คน คือ 375,226 คะแนน เมื่อคำนวณแล้วมีจำนวน 17 พรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้ง ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล 39 คน , พรรคเพื่อไทย 29 คน , พรรครวมไทยสร้างชาติ 13 คน , พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน , พรรคภูมิใจไทย 3 คน , พรรคประชาชาติ 2 คน , พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคท้องที่ไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคเป็นธรรม พรรคพลังประชารัฐ พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคเสรีรวมไทย และพรรคใหม่ พรรคละ 1 คน
ส่วนประเด็นที่ว่า หลังประกาศรับรองแล้ว กกต.จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 เลยหรือไม่ นายแสวง ตอบว่า เรื่องนี้อยู่ในการพิจารณาของสำนักงาน ต้องดูข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย และดูว่ามีการดำเนินการไปแล้วมากน้อยแค่ไหน ขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ
ส่วนกระบวนการจะต้องเร่งให้แล้วเสร็จก่อนโหวตนายกหรือไม่ เลขา กกต.ย้ำว่าเราไม่สนใจเรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องของกระบวนการการทำงาน ต้องได้ข้อเท็จจริงให้สิ้นกระแสความ ซึ่งจะต้องได้รับความร่วมมือทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าจะมีความรวดเร็วก็เกิดขึ้นกับการทำงาน ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง
ทั้งนี้ หลังจาก กกต.รับรองผลครบ 100% แล้วจะต้องเปิดการประชุมรัฐสภาภายใน 15 วัน เพื่อลงมติเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 121 ที่ระบุว่า ภายใน 15 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ให้มีการเรียกประชุมรัฐสภา เพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรก ดังนั้น คาดว่าการประชุมสภานัดแรกจะเกิดขึ้นไม่เกินวันที่ 3 กรกฎาคม 2566
#รับรองสส
#กกต