การติดตามโครงการสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. พบประชาชน ของนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.คนที่ 2 พร้อมด้วยสมาชิกสนช. และคณะ ในพื้นที่จังหวัดตราด
นายพีระศักดิ์ ระบุว่า โครงการ สนช.พบประชนชน ในครั้งนี้ตัวเองได้รับมอบหมายจากนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. มาปฏิบัติหน้าที่แทน ซึ่งในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ของโครงการ สนช.พบประชาชน โดยมาในพื้นที่จังหวัดตราด และจังหวัดจันทบุรี เพื่อรับฟังปัญหา เพื่อนำไปสู่การประสานแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้อย่างตรงจุด
ด้านนายณรงค์ ธีรจันทรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวรายงานสภาพสถานการณ์ในพื้นที่ว่า จังหวัดตราดเป็นจังหวัดที่อยู่สุดชายแดนฝั่งตะวันออกของประเทศไทย มีชายแดนติดกับประเทศกัมพูชา ทั้งทางบกและทางน้ำ มีพื้นที่ทางบก1,761,000ไร่ และมีพื้นที่ปกครองทางทะเล 4,535,000ไร่ โดยการปกครองแบ่งเป็น 7อำเภอ 38ตำบล มีประชากรทั้งหมด 223,382คน ซึ่งส่วนใหญ่คนในพื้นที่ประกอบอาชีพ เกษตรกร ,ประมง ,การท่องเที่ยว ,และการค้าตามชายแดนเป็นหลัก
แต่ปัจจุบันสภาพปัญหาที่จังหวัดตราดขณะนี้กำลังประสบปัญหา คือ เรื่องขาดแคลนแรงงาน ในด้านการเกษตร เนื่องจากแรงงานคนในพื้นที่ไม่นิยมประกอบอาชีพรับจ้าง เพราะคนส่วนมากหันไปรับราชการและค้าขาย จึงต้องมีการจ้างแรงงานจากกัมพูชามา ช่วยทำงานในด้านการเกษตร แต่เมื่ออดีตแรงงานต่างด้าว ก็นิยมรับจ้างทำการเกษตรในพื้นที่จังหวัดตราด แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป แรงงานต่างด้าวสมัยนี้ จึงนิยมหันไปลักลอบทำงานในโรง งานในจังหวัดชลบุรี เป็นจำนวนมาก เพราะได้ค่าตอบแทนที่เท่ากัน หรือสูงกว่า และทำงานในที่ร่ม ไม่ต้องทำงานกลางแจ้ง นี่จึงทำให้แรงงานต่างด้าวภาคเกษตรกรรมของจังหวัดตราด ประสบปัญหาขาดแคลนในขณะนี้
ซึ่ง นายณรงค์ ก็เสนอทางแก้ไข ระบุว่า ก็อยากให้นำมาตรา 44 มาใช้แก้ปัญหาด้านแรงงานในจังหวัดตราด เช่น ในด้านของกฎหมายก็อยากให้ช่วยเร่งการดำเนินการผ่อนปรนหนังสือบอร์ดดิ้งพาส ของแรงงานต่างด้าว ที่มาจากกัมพูชา ให้ต่อเวลาในการมาทำงานในจังหวัดตราด ให้มีระยะเวลามากขึ้น และอยากให้มีการเพิ่มพื้นที่การเข้ามาทำงานของต่างด้าวให้ครอบคลุมทั้ง จังหวัด เพราะปัจจุบัน จำกัดอยู่ในพื้นที่เฉพาะใกล้ๆตามแนวชายแดนเท่านั้น จึงทำให้แรงงานต่างด้าว รับจ้างอยู่ตามแนวชายแดน จึงอยากให้มีการนำมาตรา 44 มาใช้ในการแก้ไขปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าวในพื้นที่จังหวัดตราดนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านแรงงานต่างด้าวของจังหวัด
ขณะที่นายพีระศักดิ์ รองประธาน สนช. กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวก็จะให้คณะทำงานของฝ่าย สนช. ที่ดูแลในเรื่องนี้ ประสานเจ้ากระทรวงที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ที่มีอำนาจ เพื่อประสานในการนำไปสู่การแก้ไขและคลี่คลายปัญหาต่อไป
วิรวินท์