*รอบวัน:ขรก.ทุจริตประกาศพื้นที่ภัยพิบัติปลอม/นายกพอใจหารือกลุ่มการเมือง *

สรุปข่าว 18.00 น.

++ปัญหาข้าราชการกระทรวงมหาดไทย 115ราย มีพฤติกรรมทุจริต มีข้าราชการระดับ 10 จำนวน 4 รายนั้น ทัอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ อุบลราชธานี  อำนาจเจริญ อุดรธานี เลย บึงกาฬ  3 รายที่ปัจจุบันเป็นผู้บริหารในส่วนกลางของกระทรวงมหาดไทย และผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ส่วนอีก 1   รายเกษียณอายุราชการแล้ว ทั้งหมด 115 ราย เป็นกรณีทุจริตงบฉุกเฉินช่วยเหลือภัยพิบัติ ซึ่งรวมถึงภัยการแพร่ระบาดของศัตรูพืช ในช่วงปี 2554-2555  โดยเป็นกรณีการเปิดภัย ประกาศภัยพิบัติ โดยไม่มีภัยเกิดขึ้นจริงะมีการจัดซื้อยาปราบศัตรูพืชราคาแพงเกินจริง ซึ่งกระบวนการเปิดและประกาศภัยรวมถึงจัดซื้อ เป็นอำนาจของคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยระดับจังหวัด(กชพ.จ.) ดังนั้น จะมีผู้ติดร่างแหเป็นจำนวนมากกว่า 100 คน  เช่น รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

+++ข้อเสนอฝ่ายการเมืองเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล อยู่ยาว 3 ปี เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ไม่รู้ใครจะตอบได้ รัฐบาลจะทำไปเรื่อยๆ ทำให้ดีที่สุด แก้ปัญหาดีที่สุด ประชาชนให้ทำอย่างไรก็บอก รัฐบาลก็จะทำ เมื่อถามว่า จะอยู่ต่ออีก 2-3 ปีใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ เรื่องนี้ตอบไม่ได้ เพราะ คสช.ก็ประกาศโรดแม็ปไปชัดเจนแล้วก็ต้องเดินไปตามนั้น ส่วนการประชามติ ไม่ได้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว   ยอมรับว่า ในคสช.ยังไมได้คุยเรื่องนี้ ทุกอย่างเดินไปตามโรดแม๊พและตามรัฐธรรมนูญ

+++ที่ประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้พิจารณาภาค 2 ผู้นำการเมืองที่ดีและสถาบันการเมือง เรียบร้อยแล้ว ได้เข้าสู่การพิจารณาต่อในภาค 3 นิติธรรม ศาล และการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ หมวด 1 ศาลและกระบวนการยุติธรรม นายบรรเจิด สิงคะเนติ กรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงภาพรวมในหมวด 1 กมธ.ยกร่างฯ ต้องการให้ศาลที่เป็นคู่กรณีเข้าร่วมในการวินิจฉัย และให้มีผู้ทรงคุณวุฒิ 3 - 5 ท่าน ช่วยชี้ในพื้นฐานของหลักวิชาการ เพื่อให้พื้นฐานแห่งการวินิจฉัยอยู่บนหลักวิชาการ ยืนยันว่า กมธ.ยกร่างฯ ไม่ได้มีความมุ่งหมายต้องการให้เกิดการแทรกแซงทางของการเมืองใด เพียงแต่ต้องการให้ผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นบุคคลธรรมดาสามัญได้แสดงทัศนาของประชาชน เพราะฉะนั้นการกำหนดดังกล่าวต้องการให้คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) หรือคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) เปิดกว้างในการที่จะรับทัศนาจากบุคลากรที่ไม่ได้อยู่ในวิชาชีพ

+++สำหรับมาตรา 226 ว่าด้วยการดำรงตำแหน่งและการเกษียณอายุราชการของผู้พิพากษาและตุลาการนั้น ประธานศาลฎีกา และประธานศาลปกครองสูงสุด ให้ดำรงตำแหน่งเพียง 1 วาระ คือ 4 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้อยู่ในตำแหน่งมากจนเกินไป ถ้าอยู่นานเกินไปจะทำให้กระบวนการบริหารของศาลเกิดความไม่รื่นไหลต่างๆ ส่วนการกำหนดอายุผู้พิพากษาศาลอาญา ศาลยุติธรรม มีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ถือว่าเกษียณอายุ ไม่ได้หมายความว่าพ้นจากตำแหน่งแล้วผู้พิพากษาต้องไปอยู่ในศาลชั้นต้น แต่การจะไปดำรงตำแหน่งตรงไหนอย่างไรให้ ก.ต.หรือ ก.บ.ศ.เป็นผู้กำหนด

+++ผลการพบปะหารือ ระหว่าง นักวิชาการ นักการเมือง และสื่อมวลชน  ซึ่งจัดขึ้นที่สโมสรกองทัพบก พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ศปป.ได้รายงานนายกฯเมื่อเช้าวันนี้ว่าผลการปฏิบัติเป็นที่น่าพอใจ บรรยากาศในการหารือก็ตอบโจทย์ที่ตั้งไว้ได้พอสมควร  ก่อนหน้านี้  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้จัดเวทีในลักษณะเราฟังเขา เขาฟังเรา โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีประเด็นสำคัญทางสังคม แต่การสื่อสารผ่านสื่อมวลชน หรือช่องทางสาธารณะต่างๆ อาจไม่สามารถสื่อเจตนาได้ครบถ้วน  จึงอยากให้มีการพบปะกันซึ่งหน้า ถ่ายทอดความเห็นกันอย่างตรงไปตรงมา ไม่ผ่านตัวกลาง หรือการตีความที่อาจทำให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนได้  

+++นายจุมพล สงวนสิน อธิบดีกรมประมง เข้าพบพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาแรงงานประมงผิดกฎหมาย หลังการประชุม พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ก.มหาดไทย กรมเจ้าท่า ตำรววจน้ำ กรมประมง กระทวรงการต่างประเทศ จะร่วมกันเป็นชุดเฉพาะกิจปฎิบัติการพิเศษ สิ่งที่ต้องทำคือมาตรการในท่าเรือ 26 แห่ง โดยกำชับให้ติดเครื่องมือตรวจสอบซึ่งส่วนนี้กำนันผู้ใหญ่บ้านจะขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการ ทุกภาคส่วนจะร่วมมือกันอย่างเต็มที่เพื่อให้อียูมีความเชื่อมันและให้กรีนการ์ดกับประมงไทย  

+++สมาคมผู้ค้าข้าวนานาชาติ (THE RICE TRADER )รายงานปริมาณส่งออกข้าวของประเทศผู้ส่งออกที่สำคัญ 5 ประเทศ ณ วันที่ 14 เมษายนว่า ประเทศไทยยังเป็นแชมป์การส่งออกข้าว โดยมีปริมาณ  2.63 ล้านตันข้าวสาร เพิ่มขึ้น ร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบกับที่แล้ว อันดับ 2 อินเดียส่งออกประมาณ 2.586 ล้านตันข้าวสาร เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.6 อันดับ 3 ปากีสถานส่งออกประมาณ 1.565 ล้านตันข้าวสาร เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.49  อันดับ 4 ประเทศเวียดนามส่งออกประมาณ 1.454 ล้านตันข้าวสาร ลดลง ร้อยละ 0.34 และอันดับ 5 ประเทศสหรัฐอเมริกาส่งออกประมาณ 0.931 ล้านตันข้าวสาร  ลดลงร้อยละ 1.33

+++ผลการประชุมคณะพนักงานสอบสวนในการดำเนินคดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และพวก ที่ร่วมกันยักยอกทรัพย์สหกรณ์ฯ คลองจั่น ที่ประชุมได้มีมติรับคดีการฟอกเงินของนายศุภชัย และนายสถาพร นวอิสรารักษ์ เป็นคดีพิเศษ โดยสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 เป็นผู้รับผิดชอบคดี คาดว่าต้นเดือน พ.ค.จะเรียกพยานมาให้ปากคำเพิ่มเติมต่อไปพร้อมประสานนายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความส่วนตัวของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อขอให้พระธัมมชโยเข้าให้ปากคำกรณีที่มีชื่อรับเช็คจำนวน 878 ฉบับจากนายศุภชัย โดยทราบว่าทางทนายความจะมีการประชุมกับทางวัดพระธรรมกายในวันที่ 25 เม.ย.นี้ ก่อนจะแจ้งต่อดีเอสไอว่าจะเข้าพบวันไหน

+++นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะประธานคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ มีหารือถึงแนวทางของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่จะใช้มาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว  เพื่อปรับเงื่อนไขเพิ่มส่วนต่างกำไรจากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้กับผู้ค้าสลากจากเดิม 5.60 บาทต่อฉบับ เป็น 10 บาทต่อฉบับ เพื่อให้ผู้ค้ามีรายได้เพิ่มขึ้น และแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา 80 บาท ก่อนเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณา  หากรัฐบาลเห็นด้วยก็สามารถเริ่มได้ในงวดเดือนมิถุนายนนี้ทันที ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับโควต้าสลากหมดสัญญาลง 48 ล้านฉบับ ก่อนจะจัดสรรให้ผู้ค้ารายย่อยรายเดิม ส่วนจะให้ขยับส่วนต่างกำไรขึ้นถึง 15 บาทตามแนวคิดนายกรัฐมนตรีหรือไม่ คงไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจะกระทบทำให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลลดลงอีก

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดซื้อขายในแดนบวก เพิ่ม 10.62 จุด ที่ 1,555.46 จุด มูลค่าซื้อขาย 36,044.33 ล้านบาท

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลดลง หลังจากที่พุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันก่อนหน้านี้ ได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร ก่อนที่บริษัทญี่ปุ่นจะเปิดเผยผลประกอบการ และก่อนที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะตัดสินใจเรื่องนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า ลดลง  167.61 จุด ที่ 20,020.04 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ เพิ่มขึ้น 233.28 จุด ที่ 28,060.98 จุด

+++ การส่งต่อรูปภาพผ่านสื่อสังคมออนไลน์ มีลักษณะคล้ายแผ่นป้ายทะเบียนรถ ซึ่งปรากฏตัวอักษรประจำหมวดเป็นคำที่มีความหมายไม่เหมาะสม เช่น ศพ, ชน, จน ซึ่งไม่ใช่แผ่นป้ายทะเบียนรถที่ออกให้โดยกรมการขนส่งทางบกอย่างแน่นอน นายสุชาติ กลิ่นสุวรรณ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า การกำหนดการใช้ตัวอักษรประจำหมวดในรถยนต์ทุกประเภทกรมการขนส่งทางบกกำหนดการใช้โดยคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นสำคัญ กรณีที่พยัญชนะสองตัวผสมกันแล้วมีความหมายในทางลบหรือเป็นคำไม่สุภาพจะไม่นำมาใช้เป็นตัวอักษรประจำหมวดโดยเด็ดขาด หากพบว่ามีการนำไปใช้จริงบนท้องถนน ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายมีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานปลอมแปลงหรือใช้เอกสารราชการปลอม ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี ปรับสูงสุด 10,000 บาท