ประธานกกต.เผย สัปดาห์หน้าชัดเจน รับรองสส. นับคะแนนใหม่ไม่กระทบผลเลือกตั้ง

09 มิถุนายน 2566, 13:30น.


        คำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง สั่งให้นับคะแนน 47 หน่วยเลือกตั้งใหม่ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า เป็นมติที่ประชุม กกต. เนื่องจากเห็นว่าจำนวนบัตรออกเสียงกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิตรงกัน แต่คะแนนที่นับออกมาไม่ตรงกัน อาจจะมีสาเหตุจากการขีดคะแนนผิดพลาด จึงจำเป็นต้องนับคะแนนใหม่ใน 47 หน่วย โดยกระบวนการนับคะแนนใหม่ จะต้องทำโดยไม่ล่าช้า คาดว่าไม่เกิน 5 วันก็น่าจะเสร็จเรียบร้อย หลังจากนั้น จะต้องส่งผลการนับคะแนนมาให้ กกต.อีกครั้ง โดยการนับคะแนนใหม่นี้ จะไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส.ที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับ เพราะนับเพียงบางหน่วยเท่านั้น



          ส่วนกรณีที่กฎหมายให้อำนาจ กกต.วินิจฉัยว่าหากไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงลำดับ ส.ส.ก็ไม่ต้องนับใหม่นั้น ประธาน กกต.กล่าวว่า มาตราดังกล่าว เกี่ยวข้องกับกรณีที่พบว่าบัตรออกเสียงเลือกตั้ง ไม่ตรงกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิ ซึ่งเป็นคนละกรณีกับเหตุที่ กกต.สั่งนับคะแนนใหม่ โดยขณะนี้ยังมีกรณีที่สำนักงาน กกต. จะเสนอเรื่องเกี่ยวกับการนับคะแนนใหม่ หรือสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ให้ กกต.พิจารณา ซึ่งขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่าจะมีความเห็นว่าอย่างไร



          ด้านการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนั้น  นายอิทธิพร คาดว่าในสัปดาห์หน้า จะมีความชัดเจนว่าจะสามารถประกาศรับรองผลได้เมื่อไร แต่เชื่อว่า กกต.จะประกาศรับรองผลได้เร็วกว่า 60 วัน เร็วกว่าเมื่อปี 2562 แน่ๆ เพราะ กกต.เอง ก็ไม่อยากให้ล่าช้า



           ส่วนสาเหตุที่ กกต. ไม่สามารถทยอยประกาศรับรองผลได้เหมือนการเลือกตั้งท้องถิ่น เนื่องจาก กฎหมายกำหนดให้ กกต.ต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละ95  จึงไม่สามารถทยอยประกาศได้ อีกทั้งขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาว่าผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งมานั้น ได้รับการเลือกตั้งมาโดยสุจริตหรือไม่ หาก กกต.พิจารณาเห็นว่ามีเรื่องร้องเรียน โดยขั้นตอนหากมีการร้อง สำนักงาน กกต.จะพิจารณาว่าเป็นเรื่องที่มีมูล หรือควรสั่งรับคำร้องหรือไม่ หากรับคำร้อง ก็จะนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน และดำเนินการสืบสวนไต่สวนไปตามขั้นตอน ซึ่งหากดำเนินการไม่ทันภายในเวลา 60 วัน กกต.ก็จะประกาศรับรองผลไปก่อนแล้วไปดำเนินการในภายหลัง



          ด้านคำร้องการถือหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล นายอิทธิพร กล่าวว่า มีการยื่นคำร้องมา 3 คำร้อง อยู่ในขั้นตอนสำนักงาน กกต.พิจารณาว่าจะรับเป็นคำร้องหรือไม่ และหากไม่รับเป็นคำร้อง จะรับเป็นความปรากฏต่อกกต.หรือไม่ หากรับก็จะมีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนมาดำเนินการสืบสวนไต่สวน และเชิญผู้ถูกกล่าวหามาให้ถ้อยคำ ซึ่งกระบวนการสอบสวน สามารถทำควบคู่ไปกับการประกาศรับรองผลก็ได้



           สำหรับกรณี นายพิธา ได้เซ็นรับรองส่งผู้สมัคร ส.ส.ในฐานะหัวหน้าพรรค จะส่งผลให้ไม่สามารถประกาศรับรอง ส.ส.พรรคก้าวไกลได้หรือไม่นั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า "ไม่ถึงขนาดนั้น" เรื่องนี้ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา การให้ความเห็นเบื้องต้นทำไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ กกต.ต้องพิจารณาร่วมกัน และยังต้องใช้เวลาอีกมาก แต่เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหุ้นสื่อทั้งหมด ซึ่งการเชิญนายพิธามาชี้แจง จะมีหลังตั้งคณะกรรมการแล้ว



          ประธาน กกต. กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกกังวลกับการที่สังคมกดดัน กกต.ให้เร่งรับรองผลเลือกตั้ง หรือการไม่ให้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับนายพิธา ยืนยันว่า กกต. รับทราบความเห็นและความต้องการของประชาชน แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่สามารถละเว้นการปฏิบัติได้



          ส่วนที่นายพิธา ระบุว่า หากได้เป็นนายกฯ จะเข้าไปรื้อองค์กรอิสระที่ไม่อิสระนั้น ประธาน กกต. กล่าวเพียงว่า ทุกคนมีสิทธิจะเสนอความเห็น และผลักดันให้เป็นไปตามนั้น เรามีหน้าที่เป็นเพียงผู้ปฏิบัติเท่านั้น



 



#เลือกตั้ง66



#รับรองสส

ข่าวทั้งหมด

X