ถดถอยทางเศรษฐกิจ 20 ประเทศยูโรโซน จีดีพีติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อกัน

         ข้อมูลจากสำนักสถิติแห่งชาติยุโรป บ่งชี้ว่า 20 ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร(ยูโรโซน)เข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจที่ยังไม่รุนแรงในช่วงต้นปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อสูงและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายมากขึ้น

          ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ จีดีพี ของยูโรโซน หดตัวร้อยละ 0.1  ซึ่งเท่ากับไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว  ในทางเศรษฐศาสตร์ถือว่า เศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย เมื่อจีดีพี หดตัว 2 ไตรมาสติดกัน

          แต่หากนับรวม  27 ประเทศของกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)พบว่า จีดีพีของกลุ่มอียูเติบโตร้อยละ 0.1 ในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังหดตัวร้อยละ 0.2 ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีก่อน ยังถือว่า รอดจากภาวะถดถอยได้ 

          นายเคลาส วิสเตเซน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์มหภาคประจำเขตยูโรโซนจากแพนธีออน แมคโคอีโคนอมิกส์(Pantheon Macroeconomics) บริษัทวิจัยเศรษฐกิจของอังกฤษ คาดว่า จีดีพีของยูโรโซนจะเติบโตร้อยละ 0.1 ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ แต่ตัวเลขที่ประกาศออกมาในวันนี้ ปรับตัวลดลง เป็นผลจากภาวะถดถอยของเศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของอียูและไอร์แลนด์

         สำหรับจีดีพีของเยอรมนี หดตัวลงร้อยละ 0.3 ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เทียบกับตัวเลขคาดการณ์การเติบโตที่ร้อยละ 0 ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว เนื่องจาก ราคาพลังงานที่สูงขึ้นกระทบการใช้จ่ายของผู้บริโภค

         นายแอนดรูว์ เคนนิงแฮม หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทแคปปิตอล อีโคนอมิกส์ เปิดเผยว่า ปัจจัยร่วมเช่น เงินเฟ้อสูงและอัตราดอกเบี้ยสูงส่งผลให้ผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น พร้อมคาดว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนจะยังคงหดตัวตลอดระยะเวลาที่เหลือในปีนี้

#เศรษฐกิจอียู