บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ชี้แจงกรณีมีข่าวในสื่อต่างๆ ระบุว่า อีซูซุเตรียมย้ายฐานการผลิตออกจากไทยไปอินโดนีเซียนั้น ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงและไม่ใช่การประกาศอย่างเป็นทางการจาก บริษัทฯ แต่อย่างใด ถึงแม้ว่าประเทศอินโดนีเซียจะเป็นตลาดที่สำคัญแห่งหนึ่งของอีซูซุก็ตาม เราไม่มีแผนที่จะย้ายฐานการผลิตจากประเทศไทยไปยังอินโดนีเซีย
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานอ้าง อากุส กูมิวัง การ์ตาซาสมิตา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ได้พบปะพูดคุยในเรื่องดังกล่าวกับบรรดาผู้บริหารของอีซูซุในกรุงโตเกียว เมื่อวันอังคาร (6 มิ.ย.) ระบุว่า อีซูซุ ผู้ผลิตรถกระบะสัญชาติญี่ปุ่นมีแผนย้ายโรงงานแห่งหนึ่งจากไทยไปอินโดนีเซีย และอาจเริ่มต้นการผลิตอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า
ขณะนี้อินโดนีเซียเป็นฐานผลิตรถยนต์ให้แก่บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นหลายแห่งเช่น ฮอนด้า มิตซูบิชิ และซูซูกิ รวมทั้งยังเร่งพัฒนา เป็น สถานะศูนย์กลางการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ใช้ประโยชน์ให้เต็มที่จากวัตถุดิบ คือ แร่นิกเกิล ที่พบมากมายในประเทศ
ด้านนายเย็บ ซู ชวน ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อาปิโก ไฮเทค (AH) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ไม่มีความกังวลหากบริษัท อีซูซุ มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น มีแผนที่จะโยกย้ายการผลิตรถยนต์จากโรงงานแห่งหนึ่งในประเทศไทยมายังอินโดนีเซีย เนื่องจาก อีซูซุ มีฐานการผลิตอยู่ทั่วเอเชียอยู่แล้ว
ส่วนตัวมองว่า ประเทศไทยนั้นมียอดขายรถยนต์แบรนด์อีซูซุมากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชีย และอีซูซุ ไม่น่าจะมีการย้ายฐานไปไหน เพราะเห็นว่าอีซูซุยังจำเป็นต้องมีโรงงานในประเทศไทยเป็นฐานการผลิตอยู่ เพราะยอดขายรถอีซูซุเป็นอันดับหนึ่งในไทย ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนยอดขายให้กับอีซูซุ ราวร้อยละ30
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ราคาหุ้น AH ร่วงลงมาต่ำสุดที่ 27.75 บาท และขณะนี้เด้งขึ้นมาอยู่ที่ 34.50 บาท ลดลง 7.45 บาท (ร้อยละ 12.10)หลังนักลงทุนเทขายตื่นข่าวค่ายรถอีซูซุ จะย้ายฐานการผลิตจากไทยไปอินโดนีเซีย
แต่ล่าสุดช่วงการซื้อขายช่วงท้ายตลาด หุ้นไทย พลิกกลับมาบวกได้กว่า 20 จุด รับแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ต่อเนื่อง นำโดยกลุ่มพลังงาน กลุ่มปิโตรเคมี และคาดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง จากตลาดคาดจีนจะกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนนี้ และคาดหวังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ปรับตัวขึ้น จึงมีแรงเก็งกำไรกลุ่มพลังงานและ ปิโตรเคมี
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ 1,559.50 จุด เพิ่มขึ้น 26.29 จุด มูลค่าการซื้อขาย 59,630.89 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวขึ้น โดดเด่นกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียค่อนข้างมาก จากเงินทุนต่างชาติ (Fund Flow) เริ่มกลับมา หลังนักลงทุนคลายกังวลต่อปัจจัยการเมืองในประเทศมากขึ้น เนื่องด้วยกว่าจะเห็นการจัดตั้งรัฐบาลยังต้องใช้ระยะเวลาอีกสักระยะหนึ่ง หรือคาดอยู่ในเดือนส.ค.66 ขณะเดียวกัน Valuation ของตลาดหุ้นไทยก็ไม่ได้แพง จาก EPS ที่ 100 บาท/หุ้น
ปัจจัยต่างประเทศก็อยู่ระหว่างรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า โดยตลาดคาดเฟดน่าจะ คงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งก็ถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด
#ตลาดหุ้นไทย
#ย้ายฐานการผลิต