*สมาชิกสปช.เสนอตัดกลุ่มการเมืองออกจากร่างรธน. ด้านกมธ.ยกร่าง ชี้แจงต้องมีมาตรฐานเดียวกับพรรคการเมือง*

การประชุมสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่เป็นการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกวันที่ 4 ที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเสร็จ โดยในวันนี้เป็นการพิจารณาในภาคที่ 2 ว่าด้วยผู้นำการเมืองที่ดีและสถาบันการเมือง หมวด 3 รัฐสภา ที่พิจารณาต่อจากเมื่อวานนี้  นายชัย ชิดชอบ สมาชิกสปช. ระบุว่า อยากให้ตัดกลุ่มการเมืองทิ้งจากรัฐธรรมนูญ เพราะทั้งอดีตและปัจจุบันเห็นว่ากลุ่มการเมืองมีขนาดใหญ่และมีทุนทรัพย์จำนวนมาก และแม้จะมีการใช้มาตรา 44 ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติบังคับ แต่ก็พบว่ายังมีกลุ่มการเมืองเคลื่อนไหวจนวันนี้ยังมีการเชิญมาพูดคุย พร้อมระบุว่าส่วนตัวเกรงว่าหากบัญญัติให้มีกลุ่มการเมืองลงเลือกตั้งจะส่งผลให้ประเทศชาติล่มจมกว่าเดิม ดังนั้นควรมีแค่พรรคการเมืองเท่านั้น นอกจากนี้นาย ชัย ยังกล่าวขอให้ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ไม่มีระบบปาร์ตี้ลิสต์ และไม่ให้ส.ว.มีการสรรหา เพื่อให้รัฐสภามีที่มาจากประชาชนโดยแท้จริงตามเจตนารมณ์ที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเคยระบุไว้ว่าร่างรัฐธรรมนูญนี้เป็นของประชาชน อย่างไรก็ดีอาจมีการกำหนดคุณสมบัติพื้นฐานของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อให้ได้บุคคลที่มีความเหมาะสมมากขึ้น

นายชัย ระบุว่า ขณะนี้ประเทศประสบวิกฤตหลายด้าน รัฐบาลควรเร่งแก้ไขและควรให้สิทธิกับประชาชนให้มากขึ้นตามเจตนารมณ์ที่ประชาชนเป็นใหญ่ และร่างรัฐธรรมนูญก็ควรพิจารณาแก้ไขใหม่ในหลายประการ ทั้งนี้ส่วนตัวทราบดีว่าคณะกรรมาธิการยกร่างฯต้องทำงานอย่างหนักและถูกโจมตีจากหลายฝ่าย พร้อมกับแซวนาย บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างฯด้วยว่า คงจะนอนไม่ค่อยหลับ เพราะทราบว่าโดนโจมตีจากร่างรัฐธรรมนูญมาก และยังชี้ว่าหากร่างรัฐธรรมนูญออกมาดี ก็จะช่วยประเทศได้ แต่หากร่างมาแล้วไม่ดีพอจะเป็นการทำร้ายประเทศกว่าเดิม

จากนั้นพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ชี้แจงต่อจากนายชัยถึงเรื่องการเลือกตั้ง ส.ส. และสว.ว่าเรื่องนี้ก็ได้รับข้อเสนอมาพอสมควร ซึ่งคณะกรรมาธิการยกร่างฯก็จะนำไปพิจารณา อย่างไรก็ดีสิ่งที่ตัวเองติดใจ คือคำกล่าวของนายชัย ที่กล่าวว่า ชาติจะล่มจมเพราะกลุ่มการเมือง โดยพล.อ. เลิศรัตน์ กล่าวว่า กลุ่มการเมืองที่นายชัย เข้าใจ อาจหมายถึงกลุ่มการเมืองปัจจุบันที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ แต่กลุ่มการเมืองที่คณะกรรมาธิการยกร่างบัญญัติไว้นั้น หมายถึงสิ่งที่อยู่ในม.76 ที่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ข้อปฎิบัติที่ว่าด้วยพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองที่ต้องปฎิบัติตามร่างรัฐธรรมนูญ โดยได้เพิ่มเติมสิ่งที่กลุ่มการเมืองต้องกระทำเช่นเดียวกับพรรคการเมือง ดังนั้นพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองก็ต้องปฎิบัติในแนวเดียวกัน พล.อ.เลิศรัตน์ ระบุว่า กลุ่มการเมืองหากจะลงเลือกตั้งก็คล้ายกับพรรคการเมืองที่ต้องทำตามกฎระเบียบ และเชื่อว่ากลุ่มการเมืองจะมีความสามารถพอในการลงเลือกตั้ง เพราะมีทุนทรัพย์และผู้สนับสนุนมาก

ธีรวัฒน์