สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานอ้างสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือ ระบุว่า นางคิม โย-จอง น้องสาวของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กล่าวหาคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ว่าทำตามกระแสกดดันจากสหรัฐฯ กรณีจัดการประชุมเพื่อหารือสถานการณ์ด้านความมั่นคงเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากเกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียมข่าวกรอง ชอลลีมา-1 ขึ้นสู่อวกาศเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม แต่ล้มเหลว โดยเครื่องยนต์และระบบเชื้อเพลิงของจรวดนำส่ง ร่วงลงในทะเลพร้อมกับดาวเทียม
นางคิม กล่าวว่า การเรียกประชุมยูเอ็นเอสซีเมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่แสดงว่า ยูเอ็นเอสซี ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของสหรัฐฯ โดยยอมรับข้อเสนอจากสหรัฐฯ เรื่องการเรียกประชุมยูเอ็นเอสซี โดยไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องการใช้สิทธิ์ด้านอธิปไตยและสิทธิ์การพัฒนาโครงการอวกาศของเกาหลีเหนือ พร้อมตำหนิท่าทีของยูเอ็นเอสซี ซึ่งทำตามความประสงค์ของสหรัฐฯ ว่าไม่เป็นธรรมแก่เกาหลีเหนือ เข้าข่ายแทรกแซงกิจการภายใน อีกทั้งละเมิดอธิปไตยของเกาหลีเหนือ พร้อมทั้งประกาศไม่ยอมรับมติมาตรการคว่ำบาตรใดๆ จากที่ประชุมยูเอ็นเอสซี และจะเดินหน้าพัฒนาโครงการขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันตนเอง
นางคิม กล่าวว่า การปล่อยดาวเทียมสู่อวกาศของเกาหลีเหนือเป็นเรื่องที่ชอบธรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันตนเองให้พ้นจากภัยคุกคามความมั่นคงจากสหรัฐฯ และพันธมิตร เช่น เกาหลีใต้และญี่ปุ่น พร้อมกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าเป็นฝ่ายเติมเชื้อไฟให้เกิดความตึงเครียดรอบใหม่ในคาบสมุทรเกาหลี เช่น การซ้อมรบกับเกาหลีใต้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมของทุกปี
#เกาหลีเหนือตำหนิยูเอ็นเอสซีถูกสหรัฐฯกดดัน
#เกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียมสู่อวกาศ