ประธานาธิบดีไบเดน ระบุ ข้อตกลงขยายเพดานหนี้ คือการหลีกเลี่ยงการล่มสลายทางเศรษฐกิจ

          ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์จากห้องทำงานรูปไข่ ทำเนียบขาวเป็นครั้งแรก โดยระบุว่าการขยายกรอบเพดานหนี้ของสหรัฐฯ จะช่วยป้องกันการล่มสลายทางเศรษฐกิจ และเขาจะลงนามรับรองร่างกฎหมาย (The Fiscal Responsibility Act) ในวันนี้ (3 มิ.ย.66) ตามที่กฎหมายผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาโดยได้รับการสนับสนุนจากทั้ง 2 พรรคการเมือง และย้ำว่า หากสหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้มูลค่า 31 ล้าน 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันจันทร์ (5 มิ.ย.) จะถือเป็น "หายนะ" ทางเศรษฐกิจ

          เป็นเวลาหลายสัปดาห์ที่ทำเนียบขาวและพรรครีพับลิกันถกเถียงกันเกี่ยวกับรายละเอียดของข้อตกลง ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียง 314 ต่อ 117 เสียงในวันพุธที่ 31 พฤษภาคม และผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา 63 ต่อ 36 เสียงในวันถัดมา (1 มิ.ย.)

          นอกจากนี้ ประธานาธิบดีจากเดโมแครต ซึ่งจะลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งใหม่ในปี 2567 ยังกล่าวชื่นชมผู้นำรัฐสภา รวมทั้งนาย เควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน และนาย มิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำวุฒิสภาพรรคจากรีพับลิกัน รวมถึงสมาชิกพรรครีพับลิกันว่ามีการ “ดำเนินการโดยสุจริต” แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ ยกให้ผลประโยชน์ของประเทศมาก่อนการเมือง

          ข้อตกลงระงับวงเงินหนี้จนถึงวันที่ 1 มกราคม 2568 จำกัดการใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับกลาโหม โดยมีการขยายข้อกำหนดสำหรับความช่วยเหลือด้านอาหารและการรักษาพยาบาล รวมถึงการให้สิทธิ์รักษาพยาบาลเต็มจำนวนสำหรับทหารผ่านศึกตามที่ประธานาธิบดีไบเดนเรียกร้อง แต่จะเรียกคืนเงินงบประมาณ 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19, ตัดลดงบประมาณ 1,400 ล้านดอลลาร์ ของสำนักงานสรรพากรสหรัฐฯ และปรับปรุงโครงการด้านพลังงาน ซึ่งทางสำนักงานงบประมาณ เปิดเผยว่า กฎหมายฉบับนี้ สามารถประหยัดงบประมาณลงได้ 1,500,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 10 ปี

...

#ขยายเพดานหนี้

#โจไบเดน

#สหรัฐอเมริกา