หลังร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯผ่านการลงมติจากที่ประชุมส.ส.ด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่ 314 ต่อ 117 เสียงเมื่อคืนวันพุธ นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯได้ส่งเรื่องให้ผู้นำวุฒิสภาสหรัฐฯพิจารณาลงมติตามขั้นตอนการจัดทำกฎหมายของสหรัฐฯ
ซีเอ็นเอ็นและรอยเตอร์ รายงานว่า วุฒิสมาชิกของสหรัฐฯจะเริ่มทำงานแข่งกับเวลาในการอภิปรายและลงมติร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งจะมีผลขยายเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯจาก 31.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2568 แลกกับการปรับลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 4 วันที่สภาคองเกรสจะต้องพิจารณาร่างกฎหมายให้เสร็จไปจนกระทั่งเสนอกฎหมายให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย เพื่อช่วยเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯในวันที่ 5 มิถุนายนนี้
นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรคเดโมแครตและนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน พูดชัดเจนว่า พวกเขาต้องการจะเสนอให้ที่ประชุมสว.อภิรายร่างกฎหมายและอาจจะลงมติให้เสร็จอย่างเร็วคือ ในวันพฤหัสบดีนี้ แต่จะต้องได้รับความเห็นชอบร่วมกันจากที่ประชุมวุฒิสภา ซึ่งในปัจจุบันมีสว.รวม 100 คน
ในปัจจุบัน พรรคเดโมแครตของนายไบเดนครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา มีสว.มากกว่าพรรครีพับลิกัน 51 ต่อ 49 เสียง ซึ่งข้อกำหนดของวุฒิสภาในการลงมติผ่านร่างกฎหมายจะต้องมีเสียงสว.อย่างน้อย 60 คน หมายความว่า สว.จากพรรครีพับลิกันอย่างน้อย 9 คนจะต้องลงมติสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ด้วย จึงจะถือว่าผ่านการลงมติอย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ เนื่องจากกรอบเวลาต่างๆมีจำกัด หลายฝ่ายคาดว่า วุฒิสภาสหรัฐฯอาจจะพิจารณาและลงมติผ่านร่างกฎหมาย โดยไม่มีการแก้ไขเนื้อหาเดิม หลังผ่านการลงมติจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพราะถ้ามีการแก้ไขเนื้อหาต่างๆ วุฒิสภาของต้องส่งเรื่องกลับไปให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาและลงมติใหม่ อาจจะทำให้ขั้นตอนการพิจารณาของสภาคองเกรสเนิ่นช้ามากยิ่งขึ้น
ที่ผ่านมา สว.ส่วนใหญ่จากทั้งสองพรรคระบุว่า พวกเขาจะขอตรวจสอบเนื้อหาร่างกฎหมายนี้ก่อนตัดสินใจว่าจะลงมติรับรองหรือไม่ แต่มีสว.บางคน เช่น นายเบอร์นี แซนเดอร์ส ของพรรคเดโมแครตจากรัฐเวอร์มอนต์ และสว.เจฟฟ์ เมิร์คลีย์ ของพรรคเดโมแครตจากรัฐโอเรกอน และสว.บางคนจากพรรครีพับลิกันบอกว่า พวกเขาคัดค้านร่างกฎหมายนี้
หลังวุฒิสภาให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งมีชื่อว่า "พ.ร.บ.ความรับผิดชอบทางการคลัง" (Fiscal Responsibility Act) จากนั้น จะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ลงนามเป็นกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
#วุฒิสภาสหรัฐฯ
#ขยายเพดานหนี้สาธารณะ