กรมโรงงานฯเข้ม ปรับเกณฑ์ใบอนุญาตโพแทสเซียมไซยาไนด์ใหม่ มีอายุไม่เกิน 1 ปี จากไม่เกิน 3 ปี

01 มิถุนายน 2566, 17:52น.


          กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ยืนยันว่ากำกับดูแลสารโพแทสเซียมไซยาไนด์เป็นไปตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 แล้ว โดยการใช้โพแทสเซียมไซยาไนด์ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน เท่านั้น



          นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม แถลงว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นหนึ่งใน 6 หน่วยงานที่รับผิดชอบกำกับดูแลวัตถุอันตราย ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมรับผิดชอบ สารตามบัญชี 5 ซึ่งใช้ในภาคอุตสาหกรรม  ซึ่งโพแทสเซียมไซยาไนด์ เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมรับผิดชอบ ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะนำเข้า ผลิต จะต้องขอขึ้นทะเบียนพร้อมแจ้งวัตถุประสงค์ในการนำไปใช้ที่ชัดเจน   และจะต้องได้รับอนุญาตก่อนการดำเนินการ โดยการนำไปใช้ ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ขึ้นทะเบียนเท่านั้น



         



          สำหรับสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ เป็นสารที่นำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น ใช้ในการกระบวนการทำความสะอาดโลหะ ชุบโลหะ สกัดแร่ทองและเงิน และใช้ในห้องปฏิบัติการวิเคราะห์   สถานที่เก็บรักษาจะต้องได้รับการตรวจสอบทุกครั้งประกอบการพิจารณาขออนุญาต เพื่อให้เกิดความปลอดภัย เหมาะสม เป็นไปตามกฎหมายและหลักวิชาการ  ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจ ติดตามสถานที่เก็บรักษาวัตถุอันตรายเป็นประจำทุกปี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อบุคคล ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อม และมีข้อกำหนดให้ผู้ที่มีโพแทสเซียมไซยาไนด์ในครอบครองตั้งแต่ 100 กิโลกรัมขึ้นไป ในรอบ 6 เดือน มีหน้าที่ต้องรายงานข้อเท็จจริงของการนำไปใช้ ปริมาณคงเหลือ การจำหน่าย เพื่อให้สามารถติดตามตรวจสอบไปจนถึงผู้ใช้ (End User) ได้



          กรณีมีข่าวการนำสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ไปใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์ เช่น นำไปกำจัดสัตว์ หรือนำไปก่อเหตุฆาตกรรมนั้น กรมโรงงานอุตสาหกรรม จึงได้ออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อยกระดับการกำกับดูแลโพแทสเซียมไซยาไนด์ให้เข้มงวดยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน  โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 กรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้เชิญผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตฯ เกี่ยวกับสารโพแทสเซียมไซยาไนด์เข้าให้ข้อเท็จจริง และชี้แจงแนวทางการกำกับดูแลสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ โดยได้จัดกลุ่มผู้ประกอบการนำเข้าโพแทสเซียมไซยาไนด์เป็น 3 กลุ่มตามวัตถุประสงค์การนำไปใช้



          กลุ่มผู้นำเข้าสำหรับกิจการโรงงาน และกลุ่มผู้นำเข้าสำหรับห้องปฏิบัติการ ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย ต้องยื่นข้อมูลผู้ใช้ (End User) พร้อมระบุวัตถุประสงค์การใช้ ประกอบการแจ้งนำเข้า ก่อนนำของออกจากด่านศุลกากร ในรูปแบบเอกสารที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น และต้องรายงานทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงปริมาณการครอบครองแบบเรียลไทม์ผ่านระบบการรายงานข้อมูลกลางของกระทรวงอุตสาหกรรม (i-Industry)



          กลุ่มผู้นำเข้าสำหรับกิจการชุบล้างโลหะขนาดเล็ก ต้องยื่นข้อมูลผู้ใช้ (End User) พร้อมระบุวัตถุประสงค์การใช้ ประกอบการแจ้งนำเข้าก่อนนำของออกจากด่านศุลกากร และต้องรายงานปริมาณการครอบครองทุก 3 เดือน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรม



         



          กรมโรงงานอุตสาหกรรม กำหนดให้ใบอนุญาตฉบับใหม่มีอายุไม่เกิน 1 ปี จากเดิมไม่เกิน 3 ปี และต้องมีข้อมูลผู้จำหน่าย (Trader) และ ผู้ใช้ (End User) ประกอบการพิจารณาอนุญาต ทั้งนี้ ผู้รับใบอนุญาตที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข จะถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต และยังได้ขอความร่วมมือ สคบ. ห้ามมิให้มีการโฆษณาและจำหน่ายโพแทสเซียมไซยาไนด์ ในแพลตฟอร์มการซื้อขายสินค้าออนไลน์ทุกประเภท  ตอนนี้อยู่ระหว่างการยกร่าง ประกาศกรมโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการเงื่อนไขการโฆษณา และนำเสนอคณะกรรมการวัตถุอันตรายต่อไป



          และกำชับให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายต้องนำสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในการขึ้นทะเบียนเท่านั้น หากพบว่า ผู้นำเข้า ผู้จำหน่าย (Trader) หรือผู้ใช้ (End User) มีการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ จะมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



 



 



 



 



#กรมโรงงานอุตสาหกรรม



#โพแทสเซียมไซยาไนด์



 

ข่าวทั้งหมด

X