รับมือฤดูฝน! ผู้ว่าการ MEA ลงพื้นที่สถานีสูบน้ำพระโขนง ตรวจสอบระบบไฟฟ้า-ระบบระบายน้ำ

01 มิถุนายน 2566, 14:30น.


           เข้าสู่ฤดูฝน หลายหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับมือฝนตกหนักและการระบายน้ำ การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA  ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับสถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ และบ่อสูบน้ำ ในพื้นที่กรุงเทพฯ 364 แห่ง จากทั้งหมด 762 แห่ง ได้เตรียมความพร้อมเรื่องของระบบไฟฟ้าและเตรียมแผนบริหารจัดการการระบายน้ำร่วมกับกรุงเทพมหานครด้วย





           นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA  พร้อมด้วยนายเจษฎา จันทรประภา รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร  ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมระบบไฟฟ้าสถานีสูบน้ำพระโขนง  คลองพระโขนง เขตคลองเตย  ซึ่งเป็นสถานีสูบน้ำใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ  รับน้ำจากอุโมงค์ยักษ์พระราม 9 รับน้ำในพื้นที่ตอนบน และฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ครอบคลุม 4 เขต รวมพื้นที่ประมาณ 50 ตารางกิโลเมตร  และยังมีสถานีสูบน้ำอุโมงค์พระโขนง ที่มีเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง กำลังสูบรวม 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีพื้นที่รับน้ำประมาณ 360 ตารางกิโลเมตร  ทำหน้าที่ระบายน้ำและควบคุมระดับน้ำในคลองพระโขนง ที่เชื่อมต่อกับคลองประเวศ คลองแสนแสบ และคลองลาดพร้าว เพื่อระบายออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา  เปรียบเหมือนหัวใจหลักในการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังรอการระบายบนถนนสายหลักในกรุงเทพฯ ชั้นใน 





           โดย  MEA จ่ายกระแสไฟฟ้าให้สถานีสูบน้ำพระโขนงด้วยระบบแรงดันไฟฟ้า 69 กิโลโวลต์  สามารถทำกำลังสูบสูงมากถึง 215 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระบายน้ำท่วมขังในเมืองออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา  โดย MEA มีการเชื่อมโยงระบบจ่ายไฟฟ้าหลัก และระบบจ่ายไฟฟ้าสำรองให้กับสถานีสูบน้ำทุกแห่ง เพื่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้า และสามารถบริหารจัดการโดยใช้เทคโนโลยีบริหารจัดการควบคุมระบบไฟฟ้า SCADA (Supervisory Control and Data Acquisition) รวมทั้งนำระบบ DMS (Distribution Management System) มาใช้ในระบบการจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย ติดตั้งอยู่บนเสาไฟฟ้าในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อช่วยบริหารควบคุมสั่งการได้จากส่วนกลาง ทราบสาเหตุ และสั่งการอัตโนมัติ ทำให้เกิดความมั่นคงในระบบไฟฟ้า มีความปลอดภัย และเพิ่มประสิทธิภาพ สามารถแก้ไขไฟฟ้าขัดข้องได้รวดเร็ว



           นอกจากนั้น MEA ยังมีแผนการตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้กับสถานีสูบน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปัญหาด้านระบบไฟฟ้าที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงก่อนเข้าสู่ฤดูฝน ที่จะต้องมีการตรวจสอบในลักษณะทางกายภาพ เช่น การตัดแต่งกิ่งไม้ และตรวจสอบป้ายต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้อุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งมีโอกาสที่จะถูกลมพายุพัดหลุดห้อยหรือทำให้กระทบกับระบบไฟฟ้าทำให้เกิดความเสียหายได้ รวมถึงการตรวจสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ส่งผลต่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้าภายในสถานีสูบน้ำแต่ละแห่ง  





            MEA ยังประสานงานใกล้ชิดกับศูนย์ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ เพื่อการแก้ไขเหตุไฟฟ้าดับฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว โดย MEA จัดเจ้าหน้าที่บูรณาการ ระบบไฟฟ้าประจำจุดที่สำคัญทุกแห่ง พร้อมดูแลระบบไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง จึงมั่นใจว่า จะดูแลระบบไฟฟ้าสำหรับสถานีสูบน้ำ ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมั่นคงและปลอดภัยอย่างเต็มที่ในช่วงฤดูฝน



          ด้านนายเจษฎา จันทรประภา รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ  กรุงเทพมหานคร ระบุว่า  กทม.และ MEA จะร่วมมือกันบริหารจัดการระบบระบายน้ำของสถานีสูบน้ำต่างๆ ในกรุงเทพฯ ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทาง MEA จะช่วยดูแลเรื่องของระบบไฟฟ้าของสถานีสูบน้ำและอุโมงค์ระบายน้ำต่างๆ  ส่วน กทม. ได้เตรียมแผนพร่องน้ำในคลองต่าง ๆ ไว้แล้ว และกำชับเขตต่างๆ เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พร้อมหน่วยเคลื่อนที่เร็ว (หน่วย Best) เข้าตรวจสอบและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง





 



#MEA



#ระบายน้ำ



#กรุงเทพมหานคร



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X