มติ 8 พรรคการเมือง ตั้งคณะประสานงานเปลี่ยนผ่านฯ จัดทำนโยบายร่วม ยืนยันตั้งรัฐบาลร่วมกันได้

          การประชุมร่วม 8 พรรคการเมือง เพื่อวางแนวทางจัดตั้งรัฐบาล ที่พรรคประชาชาติ ถนนสรงประภา  นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม  พร้อมหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างไทย  พรรคประชาชาติ  พรรคเสรีรวมไทย   พรรคไทยรวมพลัง   พรรคเป็นธรรม   และพรรคพลังสังคมใหม่  โดยมีวาระในการหารือกัน 3 วาระ

          วาระ 1 คือ เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ , วาระ 2 เรื่องพิจารณาความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล, การจัดทำนโยบายบริหารประเทศ, การมอบหมายภารกิจให้คณะทำงาน    และวาระที่ 3 เรื่องอื่นๆ  ซึ่งมีการจับตาว่าจะมีการพูดคุยถึงตำแหน่งประธานสภา รวมถึงการจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีหรือไม่  นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ทางพรรคประชาชาติ ได้เตรียมห้องรับรองชั้น 3 ในกรณีที่พรรคร่วมใดอยากหารือเป็นการส่วนตัวด้วย

          หลังการหารือร่วมกัน 8 พรรค นายพิธาได้นำแกนนำพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล อีก 7 พรรคแถลงข่าวโดยระบุว่า หัวหน้าพรรคทั้ง 8 พรรค มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงาน ในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยนายพิธา จะทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการฯ  ส่วนกรรมการจะเป็นตัวแทนจากพรรคการเมืองทั้ง 8 พรรค จะมีการประชุมครั้งแรก ในวันอังคารที่ 6 มิถุนายน ที่สำนักงานพรรคเพื่อไทยในฐานะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม

          พร้อมกันนี้ยังตั้งคณะทำงานเพิ่มอีก 7 คณะ เพื่อตอบสนองต่อการแก้ปัญหาของประชาชน ได้แก่ 

1.คณะทำงานเกี่ยวกับค่าไฟฟ้า น้ำมันดีเซล และพลังงาน

2.คณะทำงานเกี่ยวกับภัยแล้ง เอลนีโญ

3.คณะทำงานเกี่ยวกับปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

4.คณะทำงานเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

5.คณะทำงานเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและพีเอ็ม2.5

6.คณะทำงานเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ปากท้องและเอสเอ็มอี

7.คณะทำงานเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด

          คณะทำงานทั้งหมดจะมีการประชุมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อรายงานความคืบหน้า ต่อคณะกรรมการประสานงานเพื่อนำไปสู่การหาทางออกร่วมกันของทุกพรรค ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ ก่อนที่จะกลั่นกรองออกมาเป็นนโยบายร่วมกันเพื่อแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา และนำไปปฏิบัติในฐานะฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติต่อไป

          นายพิธา ยังยืนยันว่า การทำงานของพรรคร่วมทั้ง 8 พรรคเป็นไปด้วยดี และจะสามัคคีกัน เพื่อร่วมทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยการจัดสรรตำแหน่งฝ่ายบริหาร หรือ การจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี จะเกิดขึ้นหลังจากทำงานร่วมกัน โดยยึดวาระการทำงานเพื่อประชาชนเป็นตัวตั้ง ส่วนตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย จะพิจารณาร่วมกัน นายพิธา ยืนยันว่า เรื่องนี้จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาล เพราะสิ่งสำคัญคือการเตรียมพร้อมบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งขณะนี้ กกต.ได้ประกาศผลคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว เหลือเพียงการรับรอง ส.ส.อย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะเปิดประชุมรัฐสภา เชื่อว่า ประชาชนหวังว่า กกต.จะใช้เวลาไม่นานในการพิจารณารับรอง ส.ส. ซึ่งจะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นได้โดยเร็ว เพื่อเข้าไปผลักดันวาระต่างๆ แก้ไขปัญหาให้กับประชาชนต่อไป

          ส่วนประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท  นายพิธา ระบุว่า จะให้คณะทำงานด้านเศรษฐกิจไปหารือกัน แต่จากการหารือกับสภาอุตสาหกรรม และในวันพรุ่งนี้ที่จะหารือกับหอการค้าไทย ย้ำว่า ยังมีความจำเป็นที่จะขึ้นค่าแรง ท่ามกลางตัวเลขจีดีพีของประเทศที่เติบโตขึ้น เงินเฟ้อ และประสิทธิภาพของแรงงาน ถือเป็นตัวเลขที่เหมาะสม แต่หากภาคเอกชนต้องการมาตรการเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งของนายจ้างและลูกจ้าง พร้อมที่จะรับฟัง และให้คณะทำงานไปดู 

          สำหรับเรื่องกัญชาต้องหาจุดสมดุลร่วมกัน เชื่อว่า 8 พรรคที่หารือร่วมกัน มีความเห็นตรงกันว่า กัญชาทางการแพทย์สามารถทำได้ แม้จะบรรจุให้กัญชาอยู่ในบัญชียาเสพติดก็ตาม พร้อมยืนยันว่า ผู้ประกอบการที่ธุรกิจเกี่ยวกับกัญชาไปแล้ว และทำถูกต้องตามกฎหมาย คณะทำงานก็จะไปดูแนวทางว่าจะสามารถช่วยเหลือหรือนิรโทษกรรมอย่างไรได้บ้าง

          ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับปัญหาตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร คณะทำงานได้พูดคุยเบื้องต้นและมีการตกลงกันอย่างชัดเจน ว่าพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล จะพิจารณาตำแหน่งประธานสภาฯ ร่วมกัน โดยไม่คำนึงว่าจะต้องเป็นโควตาของพรรคใด และจะไม่ให้เป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ให้เป็นประเด็นข้อขัดแย้งหรือสร้างความแตกแยก  เพราะต้องการให้ประธานสภาฯ ช่วยสนับสนุนในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และเพื่อทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน โดยปัญหานี้จะหารือให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด หลัง กกต.ประกาศรับรอง ส.ส.อย่างเป็นทางการ 

          ในช่วงหนึ่งของการแถลง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กอดไหล่นายพิธาให้สื่อมวลชนถ่ายรูป พร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม และพูดว่า  “เน้นย้ำว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เพื่อเป็นรัฐบาลของประชาชนให้ได้”

#จัดตั้งรัฐบาล

#8พรรคร่วมรัฐบาล

#พิธาลิ้มเจริญรัตน์