แผนสันติภาพฉบับยูเครน ให้รัสเซียถอนทหารทั้งหมด ทางเดียวยุติสงคราม

          รอยเตอร์รายงานอ้างนายอีฮอร์ ซอฟควา(Ihor Zhovkva) ที่ปรึกษาด้านการทูตของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนว่า แผนสันติภาพของยูเครนคือ หนทางเดียวที่จะนำไปสู่การยุติสงครามในยูเครน และระยะเวลาในการไกล่เกลี่ยรัสเซีย-ยูเครนผ่านพ้นมาแล้ว ระบุว่า ในช่วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายเปิดศึกสู้รบกันอย่างรูปแบบดังเช่นในปัจจุบัน การเสนอตัวเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยโดยฝ่ายต่างๆรวมถึงสำนักวาติกันอาจจะล่าช้าเกินไป ไม่ทันกับสถานการณ์การสู้รบในยูเครน

          นายซอฟควา กล่าวว่า ยูเครนไม่สนใจกับข้อเสนอการพักรบชั่วคราวในลักษณะที่ให้รัสเซียยังคงยึดครองดินแดนของยูเครนต่อไป ตามข้อเสนอสันติภาพของหลายประเทศ เช่น ประเทศจีน บราซิล สำนักวาติกันและแอฟริกาใต้ ในช่วง 2-3 เดือนที่แล้ว แต่ยูเครนต้องการจะมีการดำเนินการตามแผนสันติภาพที่จัดทำโดยยูเครน ซึ่งเสนอให้รัสเซีย ถอนกำลังทหารทั้งหมดจากอาณาเขตของยูเครน

           นายซอฟควา กล่าวว่า ไม่อาจจะมีแผนสันติภาพหลายฉบับ เช่น แผนสันติภาพฉบับบราซิล ฉบับของจีน และแผนสันติภาพฉบับแอฟริกาใต้ เมื่อเราพูดถึงเรื่องสงครามในยูเครน

           ก่อนหน้านี้ นายเซเลนสกี เข้าร่วมประชุมสุดยอดกลุ่มสันนิบาตอาหรับในซาอุดิอาระเบีย เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พูดคุยกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดิอาระเบีย ในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุม พร้อมทั้งพบกับคณะผู้แทนจากอิรักและประเทศอื่นๆ จากนั้น นายเซเลนสกีได้เดินทางไปยังเมืองฮิโรชิมา ญี่ปุ่น เพื่อร่วมประชุมสุดยอดกลุ่ม G7 พร้อมทั้งพบกับผู้นำอินเดียและอินโดนีเซีย เพื่อขอความสนับสนุนในเรื่องแผนสันติภาพของยูเครน

           แม้ว่าชาติตะวันตกจะให้การสนับสนุนด้านต่างๆ เช่น การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียและสนับสนุนด้านอาวุธแก่ยูเครน แต่ยูเครนไม่ได้รับการสนับสนุนมากนักจากกลุ่มประเทศในแถบลาตินอเมริกา แอฟริกาและประเทศส่วนใหญ่ในเอเชีย โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่นำเข้าพลังงาน เช่น น้ำมันดิบจากรัสเซียมาหลายปี นอกจากนี้ รัสเซียมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับมหาอำนาจในกลุ่ม Global South ระหว่างเกิดสงครามในยูเครน รวมถึงขายน้ำมันดิบจำนวนมากให้กับอินเดียและประเทศจีน

#แผนสันติภาพยูเครน

#ยุติสงคราม