จีน ชี้แจงโอไมครอน XBB สี่สายพันธุ์ ที่ระบาดหนักคุมได้ ไม่ได้รุนแรงตามที่ประเมิน

29 พฤษภาคม 2566, 13:55น.


          Center for Medical Genomics ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล รายงานสถานการณ์โควิด-19 ว่า แม้ องค์การอนามัยโลก (WHO) จะแถลงว่า ทั่วโลกมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านราย และผู้เสียชีวิตเกือบ 15,000 รายในช่วง 28 วัน (24 เมษายน ถึง 21 พฤษภาคม 2566) แต่ก็มีจำนวนลดลงถึง 21% และ 17% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับ 28 วันก่อน (27 มีนาคม ถึง 23 เมษายน)อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลก ยังเตือนว่าอัตราการตายสูงสุดเนื่องจากโควิด-19 ขณะนี้พบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้



          ในเอเชียโดยเฉพาะประเทศจีน กำลังเผชิญกับการติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ จากสายพันธุ์โอไมครอน XBB สี่สายพันธุ์ย่อยคือ XBB.1.5, XBB.1.16, XBB.1.9.1, และ XBB.2.3 โดยในประเทศจีนมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน 2566 และจากการคำนวณคาดว่าจะเกิด “พีก” สูงสุดที่ 65 ล้านรายต่อสัปดาห์ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2566



          รายงานจากกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2566 โดยสำนักข่าวซินหัว-เจ้าหน้าที่ระดับสูง ดร.หวัง ลี่ผิง จากกรมควบคุมโรคของจีน (China CDC) กล่าวว่า การติดเชื้อโควิด-19 โดยรวมในประเทศจีนมีความชุกเพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม 2566 เป็นต้นมา โดยผู้ป่วยโรคโควิด-19 ส่วนใหญ่แสดงอาการไม่รุนแรง  โดยจำนวนผู้ป่วยที่มารับการรักษาตามคลินิกและโรงพยาบาล จำนวนโดยรวมยังน้อยกว่าช่วงที่มีการติดเชื้อครั้งก่อนมาก และผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น



          ดร.หวัง กล่าวว่า การติดเชื้อที่เกิดจากกลุ่มโควิดโอไมครอนกลุ่มสายพันธุ์ย่อย XBB จะยังคงมีอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่สถานการณ์โดยรวมยังทรงตัวและอยู่ภายใต้การควบคุม โดยมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อการดำเนินงานบริการทางการแพทย์และสังคม



          ผู้เชี่ยวชาญของกรมควบคุมโรคของจีนอีกท่าน ดร. เฉิน เฉา ตั้งข้อสังเกตว่าจากข้อมูลการเฝ้าติดตาม ขณะนี้สายพันธุ์ย่อย XBB เป็นสายพันธุ์เด่นของโควิด-19 ทั้งในการติดเชื้อที่นำเข้าและการติดเชื้อที่เกิดขึ้นในประเทศยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทั้งทางด้านจีโนมและการทำให้เกิดโรค



          ดร.เฉิน กล่าวว่าระบบเฝ้าระวังและเตือนภัยล่วงหน้าหลายช่องทางของจีนมีประสิทธิภาพสูง หากตรวจพบสัญญาณความเสี่ยงใดๆจากกลุ่ม XBB สามารถประสานกับหน่วยงานควบคุมโรคทั่วประเทศให้ออกมาตรการรับมือที่เหมาะสมได้ในทันทีแบบเรียลไทม์



          นพ. หลี่ถงเซิง หัวหน้าแพทย์แผนกโรคระบบทางเดินหายใจและโรคติดเชื้อของโรงพยาบาล Beijing Youan มหาวิทยาลัย Capital Medical กล่าวว่า โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ติดเชื้อซ้ำจะแสดงอาการเล็กน้อยกว่าการติดเชื้อครั้งแรก และจากข้อมูลทางคลินิกแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ติดเชื้อซ้ำส่วนใหญ่มีอาการเจ็บคอเล็กน้อยและสามารถหายไข้ได้เร็วกว่า โดยอาการจะคงอยู่ 3-5 วัน



          การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในจีนและอาเซียนถูกขับเคลื่อนโดยโอไมครอน XBB สี่สายพันธุ์ย่อยกล่าวคือ XBB.1.5, XBB.1.16, XBB.1.9.1, และ XBB.2.3 ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วเป็นวงกว้าง และในบางคนอาจมีอาการรุนแรงแม้จะเคยได้รับวัคซีนหรือเคยติดเชื้อโควิด-19 มาก่อน ดังนั้นการเข้าถึงยาต้านไวรัสและแอนติบอดีสำเร็จรูปจึงมีความสำคัญในช่วงเวลานี้



          ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดี ได้วิเคราะห์ข้อมูลรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของโควิด-19 ในฐานข้อมูลโควิดโลก “จีเสส (GISAID)” พบโอไมครอนลูกผสม XBB ที่หมุนเวียนในประเทศจีนประกอบด้วย XBB.1.9.1(21%), XBB.1.16 (19%), XBB.1.9.1.2 หรือ FL.2 (17%), XBB.1.5 (7%) และ XBB.2.3*(2%)



          ขณะที่ประเทศไทยมีโอไมครอนลูกผสม XBB ที่หมุนเวียนในประเทศประกอบด้วย XBB.1.16 (16%), XBB.1.9.1(11%), XBB.1.5 (10%), และ XBB.2.3* (1%)



          องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จำแนกโอไมครอนทั้ง 4 สายพันธุ์ย่อยดังกล่าวดังนี้:



-โอไมครอน XBB.1.5 กำหนดให้เป็นสายพันธุ์ย่อยที่น่าสนใจ (variant of Interest: VOI)



-โอไมครอน XBB.1.16 กำหนดให้เป็นสายพันธุ์ย่อยภายใต้การตรวจสอบ (Variant under Monitoring:VUM)



-โอไมครอน XBB.1.9.1 กำหนดให้เป็นสายพันธุ์ย่อยภายใต้การตรวจสอบ (Variant under Monitoring:VUM)



-โอไมครอน XBB.2.3 กำหนดให้เป็นสายพันธุ์ย่อยภายใต้การตรวจสอบ (Variant under Monitoring:VUM)



          โดยยังไม่ตัดสินใจอัปเกรดสายพันธุ์ใดขึ้นเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล (variant of concern: VOC)



          ศูนย์จีโนมฯ รพ. รามาธิบดี วิเคราะห์ข้อมูลจากรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของโควิด-19 จากตัวอย่างผู้ติดเชื้อในประเทศไทยพบว่า



-โอไมครอน XBB.1.16 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage)สูงกว่า XBB.1.5 ถึง 42 %



-โอไมครอน XBB.1.16 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage)สูงกว่า XBB.1.9.1 ประมาณ 26 %



-โอไมครอน XBB.1.9.1 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage)สูงกว่า XBB.1.5 ประมาณ 8 %



-โอไมครอน XBB.2.3 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage)สูงกว่า XBB.1.5 ประมาณ 8 %







 



#โควิด19



CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ

ข่าวทั้งหมด

X