นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนเมื่อวันศุกร์ (26 พ.ค.) ว่า รัฐบาลสหรัฐจะไม่สามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้ตรงเวลา หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้เป็นภายในวันที่ 5 มิ.ย.
นางเยลเลนกล่าวว่า ข้อมูลล่าสุด ได้ประมาณการว่า กระทรวงการคลังจะมีเงินไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ของรัฐบาล หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มหรือระงับใช้เพดานหนี้ภายในวันที่ 5 มิ.ย. รัฐบาลจะมีการใช้จ่ายเงินมากกว่า 1.30 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 2 วันแรกของเดือนหน้า สำหรับด้านสวัสดิการสังคม และจำเป็นจะต้องใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 9.2 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในสัปดาห์ที่เริ่มต้นในวันที่ 5 มิ.ย.
ทั้งนี้ นางเยลเลนเรียกร้องให้ผู้นำรัฐสภาบรรลุข้อตกลงโดยเร็ว โดยกล่าวว่า การรอจนถึงนาทีสุดท้ายเพื่อระงับหรือเพิ่มเพดานหนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อธุรกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เพิ่มต้นทุนการกู้ยืมระยะสั้นสำหรับผู้เสียภาษี และส่งผลเสียต่ออันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ เส้นตายใหม่นี้เท่ากับต่อเวลาการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะ ระหว่าง 2 พรรค คือเดโมแครตของประธานาธิบดี โจ ไบเดน กับพรรครีพับลิกัน เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
สำหรับเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ คือจำนวนเงินที่จำกัดให้รัฐบาลสามารถก่อหนี้ได้ไม่เกินเพดานนี้ ขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ก่อหนี้จนชนเพดาน 31.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐไปแล้ว คิดเป็นเงินไทยกว่า 1,000 ล้านล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าในการเจรจาล่าสุด ข้อตกลงที่มีการเสนอกันในระหว่างการเจรจาล่าสุดตามที่สื่อสหรัฐฯ รายงานคือ รัฐสภาจะเพิ่มเพดานหนี้ให้รัฐบาลเป็นเวลา 2 ปี แลกกับรัฐบาลจะต้องยอมจำกัดงบประมาณรายจ่ายส่วนใหญ่เป็นเวลานาน 2 ปี แต่ยกเว้นโครงการด้านการทหารและทหารผ่านศึก ประเด็นปัญหาที่ยังติดขัด ที่ทำให้ยังตกลงเพิ่มเพดานหนี้ไม่ได้ และต้องเจรจากันต่อนั้น เช่น การพิจารณาให้สิทธิ์ว่าใคร ที่ควรจะได้รับความช่วยเหลือรับเงินสวัสดิการต่าง ๆ จากรัฐบาล
ด้านประธานาธิบดีไบเดนกล่าวล่าสุดเมื่อวานนี้ (26 พฤษภาคม) เขาคาดหวังว่า ใกล้จะบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้แล้วภายในเที่ยงคืนของคืนนี้ ก่อนที่เขาจะเดินทางไปพักผ่อนสุดสัปดาห์ที่แคมป์เดวิด ส่วนทำเนียบขาวคาดว่า การเจรจาจะไม่มีการหยุดพักและเจรจากันต่อในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ด้านนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ พรรครีพับลิกัน กล่าวว่า การเจรจามีความคืบหน้า และเขาต้องการแก้ปัญหานี้ให้ได้
#เพิ่มเพดานหนี้
#อเมริกา
#ผิดนัดชำระหนี้