ซีเอ็นเอ็นและไฟแนนเชียลไทม์รายงานอ้างสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีว่า เยอรมนี ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยุโรป เข้าสู่ภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจแล้ว หลังจีดีพีของเยอรมนีในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เติบโตเพียงร้อยละ 0.3 หลังติดลบร้อยละ 0.5 ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว ระบุว่า ค่าครองชีพ ราคาสินค้าและราคาน้ำมันแพงในปีที่แล้ว กระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจของเยอรมนีตั้งแต่ต้นปี ผู้บริโภคจ่ายเงินน้อยลง โดยเฉพาะการใช้จ่ายของครัวเรือนเติบโตเพียงร้อยละ 1.2 ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
ในทางเศรษฐศาสตร์ การที่จีดีพีของประเทศไม่การเติบโตหรืออยู่ที่ร้อยละ 0 สองไตรมาสติดต่อกัน ถือว่าเข้าสู่ภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ นักเศรษฐศาสตร์บางคนคาดเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก หลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในเดือนมีนาคมลดลงร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบตัวเลขรายเดือน ก่อนหน้านี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์จีดีพีของเยอรมนีในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มาที่ร้อยละ 0 เทียบกับตัวเลขของไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว
นายเคลาส วิสเตเซน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์มหภาคประจำเขตยูโรโซนจาก แพนธีออน แมคคโรอีโคนอมิกส์(Pantheon Macroeconomics) บริษัทวิจัยเศรษฐกิจของอังกฤษระบุว่าราคาน้ำมันแพงทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายเงินน้อยลงในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
หลายฝ่ายคาดว่า การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของเยอรมนีอาจจะมีขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ หลังข้อมูลผลสำรวจเรื่องดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของเยอรมนีเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ บ่งชี้ว่า การค้าขาย หรือกิจกรรมเศรษฐกิจของเยอรมนี มีแนวโน้มกลับมาเติบโตอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม แม้ว่าการผลิตของภาคอุตสาหกรรมจะลดลง
#เยอรมนี
#ชะลอตัวทางเศรษฐกิจ