‘ศิริกัญญา’ ย้ำเก้าอี้ประธานสภาฯ ต้องเป็นของก้าวไกล มั่นใจเพื่อไทยไม่ถอนตัวร่วมรัฐบาล

25 พฤษภาคม 2566, 11:46น.


          วันนี้ (25 พ.ค.66) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีความขัดแย้งในตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า พรรคก้าวไกลยืนยันถึงความจำเป็นที่ต้องมีตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรไว้กับพรรคก้าวไกล เพราะนอกจากการใช้อำนาจฝ่ายบริหารแล้ว ยังมีอีก 3 วาระที่ต้องได้ตำแหน่งประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อผลักดันกฎหมายทั้ง 45 ฉบับของพรรค รวมทั้งกฎหมายของพรรคการเมืองอื่น และกฎหมายจากประชาชน เพื่อให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว  อีกทั้งเพื่อผลักดันวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เดินหน้าอย่างราบรื่น  ซึ่งบุคคลที่จะมาเป็นประธานสภาฯ มีการพูดคุยกันเบื้องต้นแล้ว เชื่อว่า หลายคนมีคุณสมบัติเหมาะสม แต่ยังไม่ได้ตกลงกัน ส่วนกรณีเรื่องอายุน้อยหรือความอาวุโสนั้น เห็นว่าควรต้องให้โอกาสทำงาน ไม่เช่นนั้นการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นยาก



             ขณะที่การเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลเกี่ยวกับการแบ่งกระทรวง ตำแหน่งรัฐมนตรี ตำแหน่งสำคัญอื่น รวมทั้งนโยบายที่ยังเห็นต่าง โดยเฉพาะเรื่องค่าแรง 450 บาท ทางพรรคเพื่อไทยได้ให้สัญญาณบวกว่าไม่ขัดข้องถ้าก้าวไกลจะดำเนินนโยบายนี้ แต่ยังมีอีกหลายนโยบายที่ต้องพูดคุยหารือกัน รวมถึงนโยบายเงินดิจิทัลของเพื่อไทยด้วย ว่าจะดำเนินการหรือไม่ เพื่อให้ข้อสรุปนโยบายและแถลงต่อรัฐสภา



          รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังเชื่อมั่นว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และปรากฎการณ์แทงข้างหลังจะไม่เกิดขึ้นแน่นอนจากฝั่งก้าวไกล



          ส่วนกรณีการตรวจสอบความถูกต้องของผลการเลือกตั้งเป็นทางการของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ที่พบว่าจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตของพรรคก้าวไกล ลดลง 1 คน ที่จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้เหลือ ส.ส.เขต 112 ที่นั่ง  ซึ่งพรรคได้เห็นข้อผิดพลาดและยืนยันจำนวนตัวเลขดังกล่าวแล้ว อยู่ในคาดการณ์ ขณะนี้จำนวน ส.ส.ทั้งแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อของก้าวไกล อยู่ที่ 152 เสียง ไม่กระทบกับการจัดตั้งรัฐบาล ส่วน ส.ว.ที่จะโหวตให้ ขณะนี้ รวบรวมได้ 19 เสียง และยังมีสัญญาณบวกจากการพูดคุยกับ ส.ว.บางท่านที่ออกมาแสดงตัว มั่นใจว่า จะได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.เพิ่มขึ้น รวมทั้งไม่กังวลกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ไปยื่น กกต.ให้ตรวจสอบการทำ MOU ของ 8 พรรคด้วย



           ขณะที่ประเด็นการนำกัญชากลับเข้าบัญชียาเสพติด ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ตำรวจและ ป.ป.ส.ทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่จะคุ้มครองดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งประชาชน ผู้ปลูกและผู้ที่ทำถูกต้องตามกฎหมาย



        ส่วนกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กับ น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย มองว่าทั้งคู่เป็นผู้ใหญ่ เชื่อว่าเมื่ออารมณ์เย็นลงแล้ว สถานการณ์จะคลี่คลาย และจะไม่เป็นปัญหาของการร่วมงานกันในอนาคต



#ประธานสภา



#พรรคก้าวไกล



#พรรคเพื่อไทย

ข่าวทั้งหมด

X