ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยชุดสืบสวนตำรวจนครบาล บุกจับกุมนางสาวชนัญชิดา หรือ แพรวพราว อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงขอนแก่น และหมายจับศาลจังหวัดพะเยา ในข้อหา ฉ้อโกง และนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จากกรณีโพสต์หลอกขายทุเรียนทิพย์ โดยจับได้ที่หน้าหอพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอเมือง จ.สมุทรปราการ
พฤติการณ์ของนางสาวแพรวพราว สืบเนื่องมาตั้งแต่ปี 2565 ผู้ต้องหาแฝงตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มตลาดทุเรียนออนไลน์ กลุ่มขายของ ขายอาหาร ทั้งทางเฟสบุ๊กและทางกลุ่มไลน์ OpenChat ต่างๆ แล้วโพสต์ขายทุเรียน อ้างว่าเป็นทุเรียนหมอนทองคุณภาพดีจากจังหวัดจันทบุรี ขายในราคากิโลกรัมละ 100-150 บาท พร้อมกับโพสต์รูปทุเรียนที่ดูน่ากิน ทำให้คนที่ชอบกินทุเรียนหลงเชื่อ เพราะคิดว่าเป็นทุเรียนคุณภาพจากสวนโดยตรงและราคาถูกกว่าท้องตลาด เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินซื้อทุเรียนแล้ว ก็จะไม่ส่งทุเรียนให้
จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าไปก่อเหตุไว้ในหลายพื้นที่ ได้แก่
1.วันที่ 31 พ.ค.65 พื้นที่ สน.ลาดกระบัง ก่อเหตุ หลอกขายทุเรียน
2.วันที่ 2 มิ.ย. 65 พื้นที่ สน.โคกคราม ก่อเหตุ หลอกขายทุเรียน
3.วันที่ 14 มิ.ย. 65 พื้นที่ สภ.เมืองพะเยา ก่อเหตุ หลอกขายทุเรียน
4.วันที่ 14 ต.ค. 65 พื้นที่ สน.ดอนเมือง ก่อเหตุ หลอกขายทุเรียน
5.วันที่ 7 ก.พ. 66 พื้นที่ สภ.เมืองขอนแก่น ก่อเหตุ หลอกขายทุเรียน
แต่ผู้ต้องหายังย่ามใจก่อเหตุเรื่อยมา เพราะอาศัยยอดความเสียหายที่ไม่มาก ทำให้ผู้เสียหายหลายรายปล่อยผ่าน หากมีรายไหนไปแจ้งความ ผู้ต้องหาก็จะรีบนำเงินไปคืนให้ แล้วก็ไปหลอกรายอื่นๆ ต่อ จนมีเสียงร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่แกะรอยมิจฉาชีพรายนี้ จนกระทั่งเจอตัว และใช้แผน “หลอกซ้อนหลอก”ล่อให้ผู้ต้องหาขับรถมาให้จับกุมเอง หลังจากนี้จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น พื้นที่ที่มีหมายจับ ดำเนินคดีต่อไป
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ตนเองไม่มีงานทำ จุดเริ่มต้นที่มาหลอกขายทุเรียน เพราะเป็นคนชอบกินทุเรียน เวลาไปเดินตลาด ก็จะถ่ายรูปทุเรียนที่ดูน่ากินเก็บไว้ เมื่อนำภาพมาโพสต์ในโซเชียล ปรากฏว่ามีคนสนใจจำนวนมาก จึงเกิดไอเดียนำรูปเหล่านั้นมาโพสต์หลอกขายทุเรียน หากมีเหยื่อรายใดแจ้งความ ก็จะนำเงินไปเคลียร์กับผู้เสียหาย ซึ่งคนที่แจ้งความมีน้อยมาก เพราะยอดเงินที่หลอกลวงไปไม่สูงมาก ผู้เสียหายส่วนใหญ่จึงปล่อยผ่าน ล่าสุด ตั้งใจจะเปลี่ยนจากหลอกขายทุเรียน ไปหลอกขายอาหารสด โดยคิดไว้แล้วว่า จะใช้อุบายว่า ส่งเฉพาะคนใกล้บ้าน หากใครอยู่ไกลจะไม่ส่ง
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้ ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่มีการใช้บัญชีม้า เพราะผู้ต้องหามั่นใจและเข้าใจว่า ถ้าถูกแจ้งความก็แค่เอาเงินไปเคลียร์ ไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงสมควรต้องได้รับโทษ และขอประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อหลอกลวงในลักษณะนี้ แม้จำนวนเงินที่ถูกหลอกจะน้อย แต่การปล่อยผ่าน จะทำให้มิจฉาชีพย่ามใจ และก่อเหตุไปเรื่อยๆ ซึ่งในส่วนของตำรวจ ก็มีการยกระดับทั้งการสืบสวนและการจับกุม เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้สูญหาย พ.ศ.2565 และเพื่อยกระดับตำรวจไทยสู่สากลเพื่อตอบโจทย์ในโลกยุคใหม่ และแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชนก็จะทำทันที
#หลอกขายทุเรียนทิพย์