*สรุปข่าว19.35น.*

+++พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เตรียมใช้มาตรา 44 ในการดำเนินการกับข้าราชการทุจริตว่า  ขณะนี้นายกฯได้ส่งรายชื่อมาส่วนหนึ่งแล้ว กำลังตรวจสอบว่า ดำเนินการตามกฎหมายไปถึงขั้นใดแล้ว ถ้ามีแนวโน้มไปในทางที่ทุจริตอย่างแน่นอน ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ก็จะดำเนินการตามกฎหมายได้ถ้ามีมูล พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า รายชื่อทั้งหมดที่ส่งมาของกระทรวงมหาดไทยมี 115 ราย รวมกับของกรุงเทพมหานคร อีก 3 ราย เป็น 118 ราย มีทั้งส่วนประจำ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ขณะที่ มีผู้บริหารระดับสูงที่เข้าข่าย 4 ราย พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ได้ส่งรายชื่อให้นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทยพิจารณาว่า มีการดำเนินการตามกฎหมาย สืบสวน สอบสวน ไปถึงขั้นตอนใด แล้วให้แจ้งมา

+++พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวง ในฐานะโฆษกกระทรวง ร่วมแถลงผลงานของกระทรวงยุติธรรมในรอบ 6 เดือน ว่า การรวบรวมรายชื่อข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต คอรัปชั่น จำนวน 198 รายชื่อ ซึ่งในส่วนของกระทรวงยุติธรรม มีข้าราชการที่มีชื่อในจำนวนดังกล่าว 5 รายชื่อเป็นข้าราชการสังกัดจากกรมราชทัณฑ์และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งในจำนวนดังกล่าว มีรายชื่อที่ถูกชี้มูลแล้วประมาณ 2-3 ราย ซึ่งได้สั่งการให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งหน้าที่แล้ว ส่วนกลุ่มที่ต้องใช้กฎหมาย มาตรา 44 ในการดำเนินการ ในวันนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ จะตรวจสอบรายชื่อเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อเอารายชื่อแนบท้ายก่อนประกาศใช้ มาตรา 44

+++รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เตือนประเทศไทยในการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย โดยให้เวลาในการแก้ไข 6 เดือนหลังจากนี้ ว่านายกฯ สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ยังมีความหวังที่จะถอดใบเหลืองให้ได้ภายใน 6 เดือนนี้

+++รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า วันที่ 23 เม.ย.2558 เวลา 09.30 น. พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันแถลง เรื่อง การดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายอย่างเป็นระบบ ที่มีการเชิญสื่อมวลชนต่างประเทศที่มีสำนักงานในประเทศไทยมาร่วมฟังการแถลงข่าวดังกล่าวด้วย

+++พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ที่ปรึกษาและโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยถึงการอภิปรายของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับที่เสนอต่อสปช.  ยืนยันว่าประเด็นที่เป็นหลักการสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ เช่น ระบบเลือกตั้ง หรือ ที่มาของส.ว. จะคงบทบัญญัติเดิมไว้ เนื่องจากเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างทางการเมืองและเกี่ยวข้องกับหลายมาตรา ส่วนกรณีที่มีสปช.อภิปรายท้วงติงเรื่องการเปิดพื้นที่การเมืองให้กลุ่มการเมือง ที่หมายรวมถึงกลุ่ม นปช., กปปส. มีสิทธิ์ส่งส.ส.ลงสมัครรับเลือกตั้ง อาจทำให้เกิดความขัดแย้ง เชื่อว่า กลุ่มนปช. และ กปปส. คงไม่เข้าสู่กระบวนการได้ง่ายอย่างที่หลายฝ่ายกังวล เพราะการกำหนดรายละเอียดและเงื่อนไขการเข้าสู่ระบบการเมืองของกลุ่มการเมือง เบื้องต้นจะใช้มาตรฐานเดียวกันกับพรรคการเมือง เช่น จัดให้มีกรรมการบริหารกลุ่มการเมือง, มีสาขากลุ่มการเมือง, มีการตรวจสอบ, ชี้แจงบัญชีการใช้จ่ายเงิน, มีกฎหมายที่ควบคุมและหากกลุ่มการเมืองทำผิดกฎหมายก็จะมีโทษถึงขั้นยุบพรรคได้

+++ความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้ระเบิดคาร์บอมบ์ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)เปิดเผยว่า หลังจากที่ศาลจังหวัดยะลา อนุมัติหมายจับ นายอับดุลรอนิง ดือราแม หรือ บังยี ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยในฐานความผิด ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 11(1) ซึ่งขณะนี้อยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ทหาร ส่วนคำให้การของนายอับดุลรอนิง ยังให้การไม่ชัดเจน โดยยังให้การภาคเสธ อ้างว่ารถทั้ง 3 คันได้ขายไปกว่า 1 เดือนแล้ว ขณะเดียวกัน กองพิสูจน์หลักฐาน  (พฐ.)อยู่ระหว่างการเก็บรวบรวมดีเอ็นเอที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ไปเปรียบเทียบกับผู้ต้องสงสัย และหากพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการเรียกมาสอบสวนทันที ภายใน1-2วันนี้  ตำรวจเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกจำนวน 6 คน  ในจำนวนนี้มีบางคนที่เคยต้องคดีความมั่นคง สำหรับคดีนี้ ตำรวจเรียกพยานและผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำไปแล้วกว่า 30 คน

+++การเดินทางเยือนอินโดนีเซียของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่กรุงจาการ์ตา นายกฯ กล่าวถ้อยแถลง ในโอกาสเข้าร่วมประชุมสุดยอดเอเชีย-แอฟริกา ว่า ปัจจุบันแอฟริกาเป็นหนึ่งในทวีปที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วที่สุดทวีปหนึ่งของโลก มีการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศจำนวนมาก รัฐบาลไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นหุ้นส่วนความสำเร็จของแอฟริกาโดยมีนโยบาย “ข้อริเริ่มไทย-แอฟริกา” เพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในทุกมิติระหว่างไทยและแอฟริกา ในเวทีนี้ นายกฯ  ได้หารือทวิภาคีกับนายรามิ ฮัมดาลลาห์ นายกฯรัฐปาเลสไตน์ โดยระบุว่า ไทยเห็นพ้องให้ใช้เวทีสหประชาชาติแก้ปัญหาตะวันออกกลางอย่างสันติ  นายกฯ หารือทวิภาคีกับนายตายิบ บักคูชี (Mr. Taieb Baccouche) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐตูนิเซีย โดยนายกรัฐมนตรี ขอบคุณที่รัฐบาลตูนิเซีย ได้ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวก ในการอพยพแรงงานไทยออกจากลิเบีย เมื่อปี 2554 และในช่วงเดือนก.ค. และ ก.ย.

+++นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงเรื่องการปฏิรูปภาษีว่า ยืนยันจะเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ และจะพยายามให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้  โดยจะหาแนวทางในการอุดช่องโหว่ของภาษีต่างๆที่เกิดขึ้น  กระทรวงการคลังเสนอร่าง พ.ร.บ.ภาษีการรับมรดกให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาเห็นชอบ คาดว่า ในสัปดาห์หน้าจะเข้าสู่การพิจารณาของ สนช. วาระ 3 หรือ วาระสุดท้าย ก็จะได้บทสรุปว่าการเก็บภาษีมรดกจะเป็นอย่างไร  ส่วนร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดของกระทรวงการคลัง ทั้งการประเมินราคาที่ดินรายแปลง ตลอดจนข้อมูลต่างๆ คาดว่าต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

+++หลังจากที่ กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ร่วมกันจัดทำมาตรการสินเชื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนรายย่อย (สินเชื่อNano-Finance) โดยการอนุญาตให้มีผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยประเภทใหม่ในระบบสถาบันการเงินไทยสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบอาชีพรายย่อยและกำหนดแนวทางการประกอบธุรกิจสินเชื่อดังกล่าวให้มีความเป็นธรรม ไม่เอาเปรียบผู้บริโภคและแก้ไขปัญหาภาระดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเงินนอกระบบที่สูงเกินควร มีผู้สนใจยื่นขอเอกสารเพื่อประกอบธุรกิจดังกล่าว 20 ราย แต่ยังไม่ได้ยื่นขออนุญาตอีกประมาณ 70 ราย  ทั้งนี้ ใน 20 รายที่ยื่นขออนุญาตกับธปท. แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม  ผู้ยื่นคำขออนุญาตจำนวน 15 ราย อยู่ระหว่างการจัดส่งเอกสารให้ ธปท. เพิ่มเติม  ผู้ยื่นคำขออนุญาต 1 ราย ที่จัดส่งเอกสารให้ธปท.ครบถ้วนแล้ว และธปท. อยู่ระหว่างส่งคำขออนุญาตให้กระทรวงการคลัง และ ผู้ยื่นคำขออนุญาตจำนวน 4 รายที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว วันนี้ กระทรวงการคลังได้จัดพิธีมอบใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อ Nano-Financeจำนวน 4 ราย ได้แก่ 1)  บริษัทเงินสดทันใจ จำกัด 2) บริษัทไทยเอซ แคปปิตอล จำกัด  3) บริษัทแมคคาเล กรุ๊พ จำกัด (มหาชน) 4) บริษัทสหไพบูลย์ (2558) จำกัด  ทั้งนี้ บริษัททั้ง 4 แห่ง จะเริ่มทำการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์สินเชื่อNano-Finance ทันที และคาดว่าจะสามารถเริ่มให้สินเชื่อ Nano-Finance ได้ภายในเดือนพ.ค. 2558 มาตรการสินเชื่อ Nano-Finance จะช่วยส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนและธุรกิจ โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่ใช้บริการหนี้นอกระบบ 6 แสนครัวเรือน และที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการสินเชื่อจากสถาบันการเงินใด ๆ เลยเป็นจำนวน 1.3 ล้านครัวเรือน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ และการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอันเนื่องมาจากการใช้บริการหนี้นอกระบบ เนื่องจากมีหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยที่เป็นธรรมและไม่เอาเปรียบผู้บริโภค

+++นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธปท. กล่าวถึง ภาวะเศรษฐกิจของไทยในช่วงไตรมาส 2 คาดว่า น่าจะขยายตัวเป็นบวกมากขึ้นกว่าช่วงไตรมาสแรก ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ประเมินว่า ภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 1 จะขยายตัวที่ระดับร้อยละ 3 หากเทียบกับปีก่อนอัตราการขยายตัวร้อยละ 3 ถือเป็นการขยายตัวที่ใช้ได้ เนื่องจากไตรมาสแรกของปีที่แล้ว เศรษฐกิจไทยมีปัญหาเรื่องการเมือง ทำให้จีดีพีโตต่ำ แต่หากเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2557 ที่เศรษฐกิจขยายตัวค่อนข้างสูง เศรษฐกิจไตรมาสแรกปีนี้ ยังคงหดตัวลงเล็กน้อย ซึ่งทำให้มองเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าต้องมีความระมัดระวังอยู่ แต่ในไตรมาส 2 และ 3 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวดีขึ้น ซึ่งประเด็นนี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)  จะนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการหารือตัดสินใจนโยบายการเงิน วันที่ 29 เมษายนนี้

+++ หุ้นไทยปิดตลาดที่ 1,552.01 จุด ร่วงลงแรง 17.34จุด มูลค่าซื้อขาย 42,893.94ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียหลายแห่ง  วิตกกังวลเกี่ยวกับการเจรจาหนี้ของกรีซ และยังกังวลเรื่องการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในสัปดาห์หน้าว่าจะมีทิศทางอัตราดอกเบี้ยอย่างไรบ้าง

ส่วนตลาดบ้านเรามองว่าเป็นการขายทำกำไรหลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นไปในช่วงที่ผ่านมา และยังผิดหวังกับการประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ด้วย เนื่องจาก หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มีการปรับตัวขึ้นเกือบทุกแบงก์

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ เนื่องจากยังมีกระแสคาดการณ์ต่อเนื่องว่ารัฐบาลจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพิ่มขึ้น 83.36 จุด ปิดวันนี้ที่ 27,933.85 จุด

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว ปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 20,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี หลังจากญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลการค้าที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะฟื้นตัว พุ่งขึ้น 224.81 จุด  ปิดที่ 20,133.90 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2543

+++บีบีซี รายงานอ้างนายไมค์ แบร์ด มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียว่า ทีมกู้ภัยได้ช่วยเหลือชาวบ้านเกือบ 100 คนหลังถูกพายุพัดถล่มเมื่อวันอาทิตย์ มีคนสูงอายุ 3 คนเสียชีวิต เกิดน้ำท่วมในเมืองซิดนีย์และรัฐนิวเซาท์เวลส์ ขณะเดียวกัน สำนักอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลียเตือนว่า อาจจะเกิดพายุ ฝนตกหนักและลมแรงในพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศ ในวันนี้ ก่อนที่สภาพอากาศจะแปรปรวนน้อยลง ระบุว่าในพื้นที่ชายฝั่งทะเล อาจจะมีลมแรงขนาด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บ้านเรือนราว 2แสนหลังในรัฐนิวเซาท์เวลส์ยังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้

+++สำนักข่าวยอนฮับ รายงานอ้างนายลี อินยอง รัฐมนตรีความมั่นคงปลอดภัยสาธารณะของเกาหลีใต้ว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ได้แถลงเรื่องแผนการกู้เรือข้ามฟากเซวอล หลังการอัปปางนอกชายฝั่งทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเมื่อวันที่ 16 เม.ย. ปีที่แล้ว มีคนเสียชีวิต 304 ศพ ระบุว่า การกู้เรือจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนก.ย. โดยทีมนักประดาน้ำจะใช้โซ่ผูกรอบๆตัวเรือแล้วโยงเข้ากับเครนยก 2 ตัวทำการชักรอกเพื่อยกเรือให้อยู่ในสภาพตั้งลำ ก่อนจะลากเข้าฝั่งต่อไป รัฐมนตรีความมั่นคงปลอดภัยสาธารณะของเกาหลีใต้ คาดว่า ขั้นตอนต่างๆจะใช้เวลา 1 ปี 6 เดือน จึงจะแล้วเสร็จ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย รัฐบาลเกาหลีใต้ คาดว่า จะใช้ค่าใช้จ่ายราว 1 แสน 50,000 ล้านวอน แต่ค่าใช้จ่ายอาจจะเพิ่มขึ้นถ้าหากแผนการเก็บกู้เรือต้องเลื่อนหรือเกิดปัญหาทางเทคนิคที่ไม่คาดคิดมาก่อน เช่นความเสี่ยงที่จะเกิดการยุบตัวของเรือหลังใช้งานมา 20 ปี พายุไต้ฝุ่นในช่วงฤดูร้อนและกระแสน้ำเชี่ยวในจุดที่เรืออัปปางก่อนหน้านั้น หลังการเลี้ยวแบบหักศอก