ความคืบหน้าของการเจรจาขยายเพดานหนี้และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ฉุดให้ราคาทองคำ ในฐานะทรัพย์สินเสี่ยงต่ำ ปรับลดลงในวันพฤหัสบดี(18 พ.ค.66) แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.66
-ราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนมิ.ย.66 ลดลง 25.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,959.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองฟิวเจอร์ ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลุดระดับ 1,960 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.66
ย้อนไปเมื่อเวลา 22.11 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. 66 ลดลง 27.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.4% สู่ระดับ 1,957.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์
นักลงทุน เพิ่มคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมิ.ย.66 หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายต่างกล่าวสนับสนุนการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group ชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 36.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.66 หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้น้ำหนักเพียง 10.7%
นางลอรี โลแกน ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดไม่ได้สนับสนุนให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.66
นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา คาดว่า เฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะปรับตัวอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ขณะเดียวกัน นักลงทุนลดการถือครองทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากมีความคืบหน้าในการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ นอกจากนี้ ราคาทองถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง ทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ขณะที่การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจาก ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
#ทองคำ
#เฟด
แฟ้มภาพ