UN เร่งเจรจาเมียนมา ขอเข้าพื้นที่รัฐยะไข่ ช่วยเหลือเหยื่อไซโคลนโมคา

          ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า คณะรัฐประหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของเมียนมา ประกาศเรื่องการห้ามการเดินทางสำหรับคนงานขององค์กรการกุศลในเมียนมา นับตั้งแต่กองทัพเมียนมาทำรัฐประหารในปี 2564 กระทบการปฏิบัติงานขององค์กรการกุศลในการขนส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปมอบให้กับประชาชนในรัฐยะไข่ ทางภาคตะวันตกของเมียนมา หลังได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนโมคา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ชาวบ้าน 5.4 ล้านคนในรัฐยะไข่ และ พื้นที่ภาคตะว้นออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งมีฐานะยากจนที่สุดของประเทศอยู่ก่อนแล้วได้รับความเดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือด้านสิ่งของบรรเทาทุกข์

          ด้านองค์กรการกุศลในสังกัดของสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ระบุว่า พวกเขายังคงเจรจากับรัฐบาลเมียนมา เพื่อขออนุญาตเดินทางไปยังพื้นที่บางชุมชนของรัฐยะไข่ 4 วัน หลังจากประสบภัยพิบัติจากพายุซึ่งพัดถล่มด้วยความเร็วลม 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นับเป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยพัดถล่มเมียนมา

          มีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยราย และชาวบ้านหลายพันคนต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน เช่น เต็นท์พักแรมชั่วคราว น้ำสะอาด อาหารและสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สบู่ ยาสีฟัน

         ด้านทีมกู้ภัย เตือนว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะมีจำนวนมาก แต่ยากที่จะทราบจำนวนผู้เสียชีวิตที่แน่ชัด ระบุว่า ทีมกู้ภัยยังไม่สามารถลงพื้นที่เพื่อสำรวจครบทุกแห่ง เนื่องจาก น้ำท่วม มีต้นไม้หรือเสาไฟฟ้าหักโค่นขวางถนน และระบบโทรคมนาคมในท้องถิ่นล่ม ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ

          บ้านเรือนและระบบสาธารณูปโภคส่วนใหญ่ในรัฐยะไข่เสียหายอย่างหนัก ชาวบ้านหลายแสนคนไร้ที่อยู่อาศัย ก่อนหน้านี้พายุไซโคลนนาร์กิส พัดถล่มเมียนมาเมื่อปี 2551 มีชาวบ้านเสียชีวิต 140,000 ราย

#เมียนมา

#ไซโคลนโมคา