หลังมีผู้โพสต์ผ่านสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 18 เมษายนว่า ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ให้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เรียกเหมาค่าโดยสารจากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมขนส่งทางบกเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ พบว่า มีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นจำนวน 11 ราย ใช้บริการแท็กซี่จำนวน 2 คัน ประกอบด้วย ทะเบียน มฎ-7111 กทม. มีนายอิทธิพล สมานสามัคคี เป็นเจ้าของรถ และนายนิรุตติ์ โพธิ์ศรี เป็นผู้ขับ และทะเบียน มฎ-995 กทม. มีนายพนมยงค์ แก้วอำมาตย์เป็นเจ้าของรถและผู้ขับ ซึ่งทั้ง2 ได้รับสารภาพว่า ได้กระทำผิดจริงโดยเรียกค่าโดยสารเป็นการเหมาจ่ายรวมค่าทางด่วนเป็นจำนวนเงิน 600 บาท และ 550 บาท ซึ่งการเก็บค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายนั้นเป็นการกระทำผิดทางกฎหมายที่ห้ามมิให้มีการเรียกเก็บค่าโดยสารเกินไปจากอัตราที่ปรากฏตามมาตรค่าโดยสาร
กรมการขนส่งทางบกจึงได้เปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 1,000 บาทและพักใช้ใบอนุญาตขับรถเป็นเวลา 30 วันทันที แม้จะทำเป็นครั้งแรกก็ตาม ส่วนกรณีแท๊กซี่ทิ้งผู้โดยสารชาวต่างชาติบนถนนมอเตอร์เวย์เมื่อวันที่ 15 เมษายน ซึ่งเป็นการใช้บริการแท๊กซี่จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเช่นเดียวกัน ตรวจสอบพบแท็กซี่ทะเบียน ทศ-1845 กทม. มีนายคงศักดิ์ แก่นรัตน์ เป็นผู้ขับ รับสารภาพว่ากระทำผิดจริง จึงดำเนินการปรับเป็นจำนวนเงิน 1,000 บาทและพักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา 30 วันเช่นกัน
นายธีระพงษ์ กล่าวว่า ได้เพิ่มมาตรการพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาต แม้จะเป็นความผิดครั้งแรก เพราะความผิดนั้นส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงยังทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ ขอความร่วมมือประชาชนร่วมตรวจสอบพฤติการณ์แท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่น DLT Check in ด้วย
แฟ้มภาพ