*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30น.
++++เฝ้าระวังไฟไหม้บ่อขยะเก่าภายในซอยโกดังแสงฟ้า หมู่ 9 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ติดกับคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ เพลิงได้ลุกไหม้ไป 10 ไร่เศษ เจ้าหน้าที่ได้เร่งระดมรถดับเพลิงภายในเขต ท่ามกลางกระแสลมแรง สำรวจเศษซากขยะพบเป็นขยะจากโรงงาน รวมทั้งเศษซากแผ่นใยแก้วในโรงงานอุสาหกรรม และขยะครัวเรือนถุงพลาสติกจำนวนมาก ส่วนประชาชนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ทาง อบต.ได้อพยพไปพักที่โรงเรียนสุเหร่าบางกระสีชั่วคราว ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้คาดอาจเกิดก๊าซสันดาป เนื่องจากอากาศที่ร้อนอบอ้าว นายวิวัฒน์ ฉันทนานุรักษ์ นายอำเภอบางพลี สั่งการให้จัดเวรยามเฝ้าระวังสอดส่องหากเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นมาอีก
+++ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. พร้อมคณะเดินทางมายังท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ เพื่อขึ้นเครื่องบินแอร์บัส 319 ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติ Halim Perdanakusuma กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดเอเชีย-แอฟริกา ตามคำเชิญของนายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 21-23 เม.ย. 2558
วันนี้ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางร่วมการถ่ายภาพร่วมกันและร่วมพิธีเปิดการประชุม ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรียังมีกำหนดพบหารือทวิภาคีกับผู้นำประเทศและบุคคลสำคัญ ต่างๆ ได้แก่ การหารือทวิภาคีกับสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรฮัซไมต์จอร์แดน เนปาล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐตูนิเซีย ช่วงค่ำ นายกรัฐมนตรีร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ซึ่งประธานาธิบดีอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เข้าร่วมประชุมด้วย
+++วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน 2558 ช่วงเช้า นายกรัฐมนตรีจะพบหารือทวิภาคีกับนายโจโค วิโดโด ประธานาธิบดีสาธารณรัฐอินโดนีเซีย หลังจากนั้นเข้าร่วมการประชุม Plenary Session IV เมื่อเสร็จสิ้นนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติ Halim Perdanakusuma กลับประเทศไทย ซึ่งจะเดินทางถึงอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6) ในเวลา 15.00 น.
+++พระสุเทพ ปภากโร หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีสั่งการสลายการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ว่า ได้นำคลิปและภาพนิ่งของกองกำลังชายชุดดำติดอาวุธ ซึ่งออกมาเข่นฆ่าประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นคลิปที่เผยแพร่ทางสื่อมวลชน เพื่อให้เห็นชัดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ก่อเหตุร้ายแรง และหาก ป.ป.ช.มีการชี้มูลก็พร้อมจะเข้าไปชี้แจง ก็ดีเหมือนกันจะได้ห่มจีวรเข้าสภาสักครั้ง ส่วนคดีอาญาก็พร้อมจะไปขึ้นศาล ไม่หลบหนีไปไหน และยืนยันว่าไม่ต้องเพิ่มพยาน เพราะเป็นคนออกทุกคำสั่งเอง
++++การปราบปรามทุจริต พล.อ.ประยุทธ์ ระบุตอนหนึ่งว่า แต่หากการดำเนินการตามระบบมีความล่าช้า ก็จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เพื่อปลดล็อกต่าง ๆ ให้การทำงานเร็วขึ้น เพราะรัฐบาลมีเวลาจำกัด แต่การใช้มาตรา 44 ต้องให้ความเป็นธรรมรัดกุมและถูกต้อง ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย แถลงภายหลังการประชุม คตช. ครั้งที่ 3/2558 ว่า อนุกรรมการต้านการปราบปรามได้กำหนดมาตรการการปราบปรามไว้ 4 ขั้นตอนคือ การวางกรอบให้ผู้กระทำผิดได้ยั้งคิด หากพบการกระทำความผิดก็จะตรวจสอบ จากนั้นจะเข้าสู่การดำเนินการด้วยวิธีการทางการปกครองและวินัย สุดท้ายคือ การฟ้องร้องดำเนินคดี ซึ่งรายชื่อข้าราชการที่ส่งให้นายกรัฐมนตรี 100 รายชื่อนั้น อยู่ในขั้นที่จะต้องดำเนินการทางปกครองและวินัย คืออาจจะต้องพักงานหรือโยกย้ายเปลี่ยนหน้าที่การทำงานจำนวนมาก
++++ "พวกนี้เป็นรุ่นที่ 1 จากนี้ รุ่น 2 และรุ่น 3 อาจตามมา โดยรายชื่อทั้งหมดนี้มาจากองค์กรที่ตรวจสอบ เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนัก งานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งตรวจสอบอยู่แล้ว ก่อนที่ คสช. จะเข้ามา แต่อาจมีเหตุผลบางประการทำให้บางเรื่องเงียบไป
++++ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าทั้ง 100 กว่าคนที่มีทั้งข้าราชการผู้ใหญ่และผู้น้อย อยู่ในขั้นต้องจัดการทั้งหมดหรือไม่ อาจจะมีทั้งพวกที่ปล่อยให้อยู่ที่เดิม หรือกลุ่มที่อาจจะมีปัญหาต้องโยกย้าย ซึ่งอาจทำตามช่องทางปกติเข้าที่ประชุม ครม. หรือบางกรณีเป็นข้าราชการระดับสูง อาจหาตำแหน่งรองรับปกติยาก ต้องเอาออกจากกระทรวงที่สังกัด โดยหาตำแหน่งมารองรับ หัวหน้าคสช.อาจต้องใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อสร้างตำแหน่งใหม่รองรับโดยเอาคนเหล่านี้ออกมา ให้หลักประกันว่าเป็นมาตรการชั่วคราวเมื่อการสอบสวนดำเนินการแล้วพบว่าไม่มีความผิดก็กลับไปตำแหน่งเดิม แต่ถ้าผิดต้องถูกดำเนินคดี
++++นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกวิป สนช. แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมวิป สนช.ได้กำหนดการประชุม สนช.เพื่อพิจารณาถอดถอน นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ตามสำนวนที่ ป.ป.ช.ได้มีชี้มูลความผิด ในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว หรือไม่ โดยกำหนดวันแถลงเปิดสำนวนในวันที่ 23 เม.ย. เวลา 09.00 น. ก่อนจะมีการลงมติถอดถอนหรือไม่ในวันที่ 8 พ.ค.นี้
++++ การอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญร่างแรก วันนี้ จะต่อภาค 2 ว่าด้วยผู้นำการเมืองที่ดี และสถาบันการเมือง มีทั้งหมด 144 มาตรา 9 ประเด็นที่น่าสนใจคือ เช่น ที่มานายก อย่างไรก็ตามในการอภิปรายในวันที่ 24-25 เม.ย. จะอภิปรายในภาค 3 ภาค 4 ส่วนวันอาทิตย์ที่ 26 เม.ย. จะอภิปรายบทเฉพาะกาล
++++ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธาน กมธ.ปฏิรูปการเมือง อภิปรายว่าพูดถึงหลักการอำนาจอธิปไตยของปวงชน รัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างให้พลเมือง ประชาชนเป็นใหญ่ แต่อนุญาตให้คนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้โดยไม่ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ก็จะสร้างความขัดแย้งกันพอสมควร แต่ถ้าเห็นว่ามีความจำเป็น ตนยังมีทางออกคือในตัวเนื้อหลักร่างรัฐธรรมนูญควรจะระบุให้ชัดว่าต้องเลือก ส.ส. เป็นนายกรัฐมนตรี โดยเขียนไว้ในบทเฉพาะกาลให้ชัดเจน
++++ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สปช. อภิปรายว่า สิ่งที่ กมธ.ยกร่างฯเสนอมายังตอบโจทย์ไม่ได้ ปัญหาบ้านเมืองของเราคือ ความแตกแยก ความขัดแย้ง นักการเมืองข้าราชการทุจริตคอร์รัปชั่น ต้องได้รับการแก้ไข ระบบการเลือกตั้งที่ให้มี ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ นั้นคิดว่าควรมี ส.ส.เขตอย่างเดียว
+++การเลือกตั้งโดยมี ส.ส.หลายพรรคจะเป็นรัฐบาลผสม โดย กมธ.ยกร่างฯบอกว่า จะทำให้การเมืองเข้มแข็งนั้น ขัดกับเหตุผลอธิบายไม่ได้ รวมถึงการให้กลุ่มการเมืองสมัคร ส.ส.ได้จะเกิดปัญหา เพราะที่ผ่านมา กลุ่มการเมืองมีส่วนทำให้เกิดความแตกแยก ส่วนวันนี้ นัดประชุมต่อ เวลา 09.00 น. รวมเวลาการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญ ตลอด 2 วันใช้เวลา 25 ชั่วโมง
+++อากาศร้อนจัด ทพ.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปีนี้อากาศร้อนมากกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้คนเป็นโรคลมแดด หรือฮีทสโตรกกันหลายราย ซึ่งเป็นภาวะวิกฤติร่างกายไม่สามารถปรับตัว จะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ หน้ามืด เพ้อ ชัก ไม่รู้สึกตัว หายใจเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะและช็อก หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทัน ท่วงทีอาจทำให้เสียชีวิตได้ นายประมวล ลาภจิตต์ ปภ.จ.เลย กล่าวว่าช่วงนี้ใน จ.เลย อากาศร้อนอุณหภูมิสูงขึ้นถึง 42.4 องศาเซลเซียส ถือว่าร้อนที่สุดในรอบ 58 ปี ยังไม่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยแล้ง
+++ที่อ่างทองพบคนเสียชีวิตเพราะอากาศร้อนจัด ร.ต.ท.จักรี พันเอ็ด พงส.สภ.เมืองอ่างทอง ไปตรวจสอบพบศพนายแสงสุริยา กาสีคุณ อายุ 42 ปี เป็นช่างไฟฟ้า นอนคว่ำหน้าอยู่บนที่นอนตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย สอบสวนทราบว่าผู้ตายมาเช่าบ้านเมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 เม.ย. นั่งกินข้าวกับเพื่อนบ่นว่าอากาศร้อนจัด จากนั้นแยกย้ายกันเข้านอนพอรุ่งเช้าพบว่าเสียชีวิต คาดอากาศร้อนจนทำให้ช็อก
+++ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน" ฉบับที่ 11 ความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว และจะแผ่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนจนถึงวันที่ 25 เมษายน 2558 อุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส และอากาศจะคลายความร้อนลง ซึ่งจะมีผลกระทบตามภาคต่างๆ ดังนี้คือ วันที่ 22-23 เมษายน 2558 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือวันที่ 22-25 เมษายน 2558 บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก และ วันที่ 23-25 เมษายน 2558 บริเวณภาคใต้
+++การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟฝ.) ได้รายงานถึงสถานการณ์การใช้ไฟฟ้าสูงสุดของประเทศไทย ซึ่งได้ทำสถิติใหม่ไปเมื่อเวลา 14.13 น. ของวันที่ 21 เมษายน 2558 โดยมีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 27,139 เมกะวัต์ ทำลายสถิติสูงสุดเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2558 ที่อยู่ที่ 27,056.8 เมกะวัตต์ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว อุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 38.3 องศาเซลเซียส
+++วันนี้จะมีการประชุมของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) จะพิจารณาเพื่อประกาศอัตราไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) รอบเดือน พ.ค.-ส.ค. 2558 ซึ่งมีแนวโน้มปรับลดลงไม่ต่ำกว่า 5 สตางค์/หน่วย
+++ร.ต.อ.อัครพล ธนธรรม รอง สว.ป.สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่า ได้ยินเสียงดัง คล้ายระเบิดในซอยสุขุมวิท 35 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและรีบไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น5 ของห้างเปิดใหม่ชื่อดังย่าน สุขุมวิท จากการตรวจสอบพบเป็นการทดลองเอฟเฟค ประกอบการแสดงเท่านั้น นายวริทธิ์ธร สุวรรณโณ หัวหน้าออแกไนซ์เซอร์ที่รับผิดชอบงานดังกล่าว ชี้แจงว่า เสียงดังคล้ายระเบิดนั้น เป็นเสียงที่เกิดจากการทดลองเสียงเอฟเฟคประกอบการแสดง เพื่อเตรียมงานเปิดห้างในวันที่ 29 เม.ย. นี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการลงบันทึกประจำวัน และแจ้งของหา กระทำการใดๆ ที่ทำให้เกิดเสียงดัง โดยไม่ใช่เหตุอันควร เป็นเหตุให้ประชาชนแตกตื่นตกใจ มีโทษปรับเป็นเงิน 500 บาท