ผู้เสียชีวิตจากไซโคลน โมคา พัดถล่มเมียนมา เพิ่มเป็น 29 ราย บาดเจ็บ 25 คน

          หลังพายุไซโคลนโมคาพัดผ่านอ่าวเบงกอล ขึ้นฝั่งระหว่างเมืองค็อกซ์บาซาร์ของบังกลาเทศ กับ เมืองซิตตะเวในรัฐยะไข่ทางภาคตะวันตกของเมียนมาเมื่อวันอาทิตย์ (14 พ.ค.2566) ด้วยความแรงลม  195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 10 ปี 

          เอเอฟพีรายงานอ้างนายโก ลินลิน เจ้าหน้าที่กู้ภัยท้องถิ่นของเมียนมาและแหล่งข่าวผู้นำชุมชนหมู่บ้านชาวโรฮิงญาแห่งหนึ่งในเมืองซิตตะเวว่า ตัวเลขรวมของผู้เสียชีวิตในเมียนมาอยู่ที่ 29 ราย ในจำนวนนี้ รวมถึงชาวโรฮิงญา 24 รายในหมู่บ้านขวง ดอก การ์ (Khaung Doke Kar)ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซิตตะเว และอีก 5 รายเป็นชาวบ้านในท้องที่อื่นๆของเมืองซิตตะเว มีผู้บาดเจ็บ 25 คน และมีผู้สูญหายหลายคน โดยเฉพาะชาวโรฮิงญาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ นอกจากนี้ บ้านเรือนกว่า 860 หลัง โรงพยาบาลและคลินิกเอกชนรวม 14 แห่งทั่วประเทศได้รับความเสียหาย

          ขณะเดียวกัน ชาวบ้านหลายร้อยคนที่อพยพไปพักยังศูนย์พักพิงชั่วคราวทยอยกลับไปยังหมู่บ้านในวันนี้ พบถนนส่วนใหญ่เกลื่อนไปด้วยซากต้นไม้และเสาไฟฟ้า ซึ่งหักโค่น เสาบ้านและสายไฟฟ้าที่เสียหายจากความแรงของพายุ ภาพข่าวจากเอเอฟพีที่บันทึกจากที่เกิดเหตุแสดงให้เห็นเรือประมงหลายลำ ซึ่งทำจากไม้กระดาน ได้รับความเสียหาย โดยมีซากชิ้นส่วนของเรือกองอยู่ในริมชายหาด

          ด้านเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าและโทรคมนาคมของเมียนมา สามารถกู้ระบบไฟฟ้า ระบบโทรคมนาคมและสัญญาณอินเตอร์เน็ตจนกระทั่งใช้งานได้ตามปกติในบางท้องที่ของรัฐยะไข่ รวมถึงเมืองซิตตะเว ซึ่งมีประชากร 150,000 คน นับเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก

          ทั้งนี้ พายุได้เคลื่อนตัวผ่านบังกลาเทศและเมียนมาตั้งแต่เมื่อค่ำวันอาทิตย์ แต่ค่ายลี้ภัยชาวโรฮิงญาเกือบ 1 ล้านคนในเมืองค็อกซ์บาซาร์ ของบังกลาเทศไม่ได้รับความเสียหายและไม่มีคนเสียชีวิต เพราะก่อนที่พายุจะขึ้นฝั่ง บังกลาเทศ สั่งอพยพชาวบ้าน 750,000 คนจากพื้นที่เสี่ยงก่อนเพื่อความปลอดภัย

#ไซโคลนโมคา

#ผู้เสียชีวิตในเมียนมา