คดีนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ผู้ต้องหาคดีใช้สารพิษโพแทสเซียมไซยาไนด์ วางยาเหยื่อจนมีผู้เสียชีวิตรวม 14 ราย และถูกขังอยู่ภายในเรือนจำ ได้ยื่นหนังสือคำร้องต่อกรมราชทัณฑ์ เพื่อขอพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) โดยอ้างว่าจะขอรับสารภาพกับพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.นําเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมกองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.ศฝร.บช.น.) ในฐานะหัวหน้าชุดพร้อมพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดี เดินทางเข้าไปสอบปากคำนางสรารัตน์ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง (คลองเปรม) ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง และเป็นสอบปากคำครั้งที่ 3 พร้อมกับเชิญตัว พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีของนางสรารัตน์ มาร่วมสอบสวนที่ทัณฑสถานหญิงกลางด้วย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ปล่อยให้ทั้งสองคนพูดคุยกัน ซึ่งอดีตสามี ยังไม่ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจเพิ่มเติม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำยังไม่มีการรับสารภาพว่าเป็นผู้ฆ่าทั้ง 14 ศพ แต่รับสารภาพเพิ่มเติมว่าได้นำเสนอยาไซยาไนด์ให้กับน.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย ในลักษณะผง บรรจุในซิบล็อค เพื่อให้นำไปทดลองผสมใช้กับยาเสพติด โดยอ้างว่าให้ใช้ในปริมาณเล็กน้อย และยกตัวอย่างว่านายแด้ ได้นำไซยาไนด์ใช้กับสารเสพติดเช่นเดียวกันเพื่อใช้เสพ และอ้างว่าไซยาไนด์ดังกล่าวก็นำมาจากนายแด้ด้วย เป็นเพียงการยอมรับว่าให้ไปทดลองใช้กับยาเสพติด แต่ไม่ได้รับสารภาพว่าให้กินหรือให้ดื่ม ซึ่งตนเองก็ไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้งหมด แต่การรับสารภาพว่านำไซยาไนด์ไปมอบให้ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก โดยจะนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลในสำนวนว่าตรงกันหรือไม่ และได้บอกให้ไปตั้งสติและเรียบเรียงข้อมูลก่อนที่วันพุธ17 พ.ค.66 จะเข้าไปสอบปากคำอีกครั้ง
ขณะที่ในวันนี้(16 พ.ค.66) จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับคนใกล้ชิด เนื่องจากคำให้การของนางสรารัตน์ มีการชี้ไปถึงบุคคลใกล้ชิด รองผบ.ตร.ฝากถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังและให้คำปรึกษาทั้งหมดว่าอุบายต่างๆไม่มีประโยชน์ เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานตามพยานหลักฐาน
#แอมไซยาไนด์
CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ เพจ POLICETV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,ผู้พิทักษ์