ปธ.กกต.สรุปผลเลือกตั้งทั่วประเทศ ก้าวไกล ได้ที่นั่งมากสุด เร่งพิจารณาทุกคำร้องตามขั้นตอน

          ผลสรุปการเลือกตั้ง ส.ส. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แถลงสรุปภาพรวมและรายละเอียด

-ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 39,293,867 คน จากผู้มีสิทธิ 52,238,594 คน คิดเป็นจำนวน 75.22 % สูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ กกต.จัดการเลือกตั้งมา

-การนับคะแนนเลือกตั้งทั่วประเทศ จำนวนเลือกตั้ง 95,137 หน่วย นับเสร็จแล้ว 94,358 หน่วย คิดเป็น 99.18%

-อีก 1% จะเป็นบางหน่วยที่หยุดหรืองดออกเสียง เนื่องจากมีพายุฝน ไม่สามารถลงคะแนนได้ ประมาณ1-2หน่วย เช่นหน่วยเลือกตั้งที่ 10 อ.เมือง จ.นครปฐม

-ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ โดย ส.ส.แบ่งเขต เรียงลำดับ

*พรรคก้าวไกล 112 ที่นั่ง

*เพื่อไทย 112 ที่นั่ง

*ภูมิใจไทย 68 ที่นั่ง

*พลังประชารัฐ 39 ที่นั่ง

*รวมไทยสร้างชาติ 23 ที่นั่ง

*ประชาธิปัตย์ 22 ที่นั่ง

*ชาติไทยพัฒนา 9 ที่นั่ง

*ประชาชาติ 7 ที่นั่ง

*ไทยสร้างไทย 5 ที่นั่ง

*เพื่อไทรวมพลัง 2 ที่นั่ง

*ชาติพัฒนากล้า 1 ที่นั่ง

          แบบบัญชีรายชื่อได้เก้าอี้ไป 17 พรรค ดังนี้

*พรรคก้าวไกล 39 ที่นั่ง

*พรรคเพื่อไทย 29 ที่นั่ง

*พรรครวมไทยสร้างชาติ 13 ที่นั่ง

*พรรคภูมิใจไทย 3 ที่นั่ง

*พรรคประชาธิปัตย์ 3 ที่นั่ง

*พรรคประชาชาติ 2 ที่นั่ง

*พรรคพลังประชารัฐ 1 ที่นั่ง

*พรรคเสรีรวมไทย 1 ที่นั่ง

*พรรคไทยสร้างไทย 1 ที่นั่ง

*พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 ที่นั่ง

*พรรคใหม่ 1 ที่นั่ง

*พรรคชาติพัฒนากล้า 1 ที่นั่ง

*พรรคท้องที่ไทย 1 ที่นั่ง

*พรรคชาติไทยพัฒนา 1 ที่นั่ง

*พรรคเป็นธรรม 1 ที่นั่ง

*พรรคพลังสังคมใหม่ 1 ที่นั่ง

*พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 ที่นั่ง

-ปัญหาต่างๆที่ได้รับแจ้ง เช่น การฉีกบัตรเลือกตั้ง 24 ราย จำหน่ายสุราในช่วงห้ามจำหน่าย 7 ราย ถ่ายรูปบัตรที่ลงคะแนน 4 ราย

-จนถึงเวลา 09.00 น. กกต.ได้รับคำร้องทั้งหมด 168 เรื่อง เป็นเรื่องซื้อเสียง 59 เรื่อง การหลอกลวงใส่ร้าย 58 เรื่อง เจ้าหน้าที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่มิชอบ 18 เรื่อง นอกจากนั้นเป็นเรื่องการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งและพรรคการเมืองหลายมาตรา

-เมื่อปี 62 คำร้องที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งมีทั้งหมด 592 เรื่อง

-กกต.จะดำเนินการตรวจสอบผลการเลือกตั้งให้ถูกต้องและประกาศผลภายใน 60 วัน ในช่วง60 วัน พยายามทำให้เร็วที่สุด ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

          กรณีคำร้องของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เรื่องถือหุ้นสื่อ ประธานกกต.ชี้แจงว่า เมื่อได้รับคำร้องมาแล้วทุกคำร้องมีขั้นตอนและการพิจารณาเหมือนกันหมด คือต้องใช้เวลา และเข้าสู่ขั้นตอนของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน สืบพยานสืบข้อเท็จจริง ผ่านขั้นตอนของคณะกรรมการมีขั้นตอนตามลำดับ และนำเข้าสู่ที่ประชุมกกต.มีคณะอนุวินิจฉัยกระบวนการพิจารณาก่อนเสนอกกต.ถึงจะตัดสิน

         เหตุการณ์ที่สำนักงานเขตบางพลัด กรณีห้ามประชาชน สังเกตการณ์การนับคะแนน และไม่แจ้งผลให้ทราบ ประธานกกต.ชี้แจงว่า ไม่ใช่การนับคะแนน เนื่องจาก สำนักงานเขตบางพลัด ไม่ใช่สถานที่นับคะแนน เขตหลัก คือ บางกอกน้อย และเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่นำวัสดุอุปกรณ์มาส่งที่เขต ประชาชนจำนวนมากที่มาสังเกตการณ์ จึงต้องจัดระเบียบ และได้ทำความเข้าใจกันแล้ว 

         กรณีบัตรเลือกตั้งที่สำนักงานเขตห้วยขวางขาดและนำสติ๊กเกอร์ไปแปะ ที่ประชุมกกต.เห็นพ้องกันว่าเป็นอำนาจการวินิจฉัยของกปน.ประจำหน่วย ไม่ได้เกิดจากเจตนาจงใจทำลายบัตร และเป็นการทำตามหน้าที่ ไม่ถือว่าเป็นบัตรเสีย นำไปลงคะแนนได้

        นอกจากนี้ ประธานกกต.ขอให้คนที่มีสิทธิและไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ดำเนินการแจ้งเหตุที่ไม่ไปใช้สิทธิ ตั้งแต่วันที่15-21 พ.ค.66 ผ่านช่องทาง ดังนี้

-ยื่นด้วยตนเอง หรือ มอบหมายให้ผู้อื่นยื่นแทนต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน โดยทำหนังสือแจ้งเหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิ พร้อมระบุเลขประจำตัวประชาชนและที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน

-จัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ถึงนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น

-แจ้งผ่านเว็บไซสำนักบริหารการทะเบียน stat.bora.dopa.go.th หรือทางแอปพลิเคชัน SMART VOTE

#เลือกตั้ง66

#กกต