สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ร่วมกับศูนย์ความรู้นโยบายเด็กและครอบครัว (คิด for คิดส์) 101PUB และ LUKKID จัดโครงการ Youth Policy Lab "ห้องทดลองออกแบบนโยบายโดยเด็กและเยาวชนเพื่อเด็กและเยาวชน” รับฟังการนำเสนอนโยบายด้านการศึกษา – สุขภาพจิต – อนาคตการทำงาน จากเยาวชนในกรุงเทพฯ โดยมีผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ร่วมแสดงความคิดเห็นและรับข้อเสนอที่น่าสนใจของเยาวชน นำสู่การขับเคลื่อนนโยบายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
น.ส. ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. เปิดเผยว่า โครงการนี้ จัดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก และเลือกเยาวชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นกลุ่มนำร่อง เนื่องจากกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่มีความท้าทายหลายด้านและมีโอกาสที่นโยบายของเยาวชนจะถูกนำไปใช้จริง โดยมอบโจทย์ 3 ข้อ ซึ่งนำมาจากการทำแบบสอบถามของเยาวชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่ากำลังเผชิญกับปัญหาอะไรบ้าง ได้แก่ ปัญหาด้านการศึกษา สุขภาพจิต และอนาคตการทำงาน โดยเปิดรับสมัครเยาวชนอายุ 15-25 ปี มาร่วมออกแบบนโยบาย และคัดเลือกจนเหลือ 30 คน แบ่งเป็น 6 ทีมในรอบสุดท้าย ซึ่งนโยบายของเยาวชนที่นำเสนอในวันนี้ ผ่านการลงพื้นที่จริง การพูดคุยกับผู้ประสบปัญหาจริง และผ่านการวิเคราะห์ หาคำตอบโดยเยาวชนเอง เชื่อว่าการเปิดพื้นที่ให้ได้มีส่วนร่วม จะช่วยลดความอึดอัดและความขัดแย้งได้ โดยหลังจากจบการเลือกตั้ง มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว สสส.จะจัดทำเป็นข้อเสนอต่อรัฐบาลเพื่อพิจารณาผลักดันร่วมกันต่อไป นอกจากในพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้ว สสส. เตรียมจะนำโครงการนี้ ขยายไปสู่จังหวัดอื่นๆ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของเยาวชนจากทั่วประเทศ
สำหรับการนำเสนอนโยบายของเยาวชนทั้ง 6 ทีมในวันนี้ ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ รับเกียรติบัตรและเงินรางวัล 2 หมื่นบาท คือ ทีมที่3 Edsolve เสนอนโยบายแก้ปัญหาการเรียนการสอนที่ไม่ได้คุณภาพ ห้องเรียนน่าเบื่อ เพราะครูมีภาระเอกสารงานเยอะ ทำให้เบียดบังเวลาเตรียมการเรียนการสอน และภาระงานเอกสารที่มากเกินไป ทำให้ครูหมดไฟกับการสอน จึงประกาศสงครามกับงานเอกสารของครู และคืนครูให้นักเรียน ด้วยการเพิ่มแนวหน้ารับงานเอกสาร เพิ่มตำแหน่งพนักงานธุรการและพนักงานบัญชี โดยให้ กทม.เป็นตัวกลางในการประชาสัมพันธ์ตำแหน่งว่างงานของโรงเรียนในสังกัด กทม.
นอกจากนี้ยังใช้ดาต้าและเอไอ จัดทำระบบเอกสารราชการ เช่น มี Smart Document เพื่อช่วยลดเวลาและความยุ่งยากในการทำเอกสาร มีระบบการส่งเอกสาร โดยไม่ต้องมีคนเดินเอกสาร มีระบบ Smart Assessment ฐานข้อมูลเก็บผลงาน รูป เอกสารการสอนต่างๆ สำหรับการประเมิน เพื่อให้ครูดึงข้อมูลออกมาใช้ทำประเมินได้ง่ายขึ้น เป็นต้น
ด้านนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่มารับฟังการนำเสนอนโยบายของเยาวชนในวันนี้ เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครร่วมขับเคลื่อนงานด้านเด็กและเยาวชนร่วมกับ สสส.มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง 3 ประเด็นปัญหาที่เป็นโจทย์ในครั้งนี้ ก็เป็นปัญหาที่ กทม.ให้ความสำคัญ เช่น การขยายโอกาสทางการศึกษาให้ครอบคลุม เท่าเทียม การพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่ตรงความต้องการของโลกยุคปัจจุบัน การสร้างพื้นที่ให้เยาวชนมีโอกาสฝึกอาชีพที่หลากหลายและทันกระแสโลก โดยจับมือร่วมกับภาคเอกชน ส่งเสริมการปกป้องสิทธิ เช่น เรื่องทรงผม การแต่งกาย และการกลั่นแกล้งในโรงเรียน เพื่อช่วยลดภัยคุกคามทางใจของเยาวชน และยังมีเวทีที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงความคิดเห็น เสนอแนะปัญหา อย่างเช่น สภาเมืองคนรุ่นใหม่ ซึ่งการนำเสนอนโยบายของเยาวชนในครั้งนี้ กทม.จะรับข้อเสนอนำไปปรับใช้จริงในพื้นที่กรุงเทพฯ ต่อไป
#สสส
#เปิดนโยบายเยาวชน