ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคมนี้ ใช่ว่าจะมีการเลือกตั้งเฉพาะประเทศไทย แต่อีกด้านหนึ่ง ในประเทศตุรกีก็มีการเลือกตั้งทั่วไปและเลือกตั้งประธานาธิบดีเช่นกัน
ประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน วัย 69 ปี ปกครองตุรกีมาตั้งแต่ปี 2546 และได้รับความนิยมมาหลายปี แต่ขณะนี้กำลังเผชิญแรงกดดันอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน ขณะที่คู่แข่งคนสำคัญของเขาคือ นายเคมาล คิลิชดาโรกลู ข้าราชการวัยเกษียณ วัย 74 ปี เป็นผู้สมัครที่เป็นตัวแทนของพรรคฝ่ายค้านรวมกัน 6 พรรค หลายฝ่ายในตุรกีมองว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกจำนวน 5 ล้านคนเป็นกลุ่มยังไม่ตัดสินใจที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ชายวัย 20 ปีคนหนึ่งกล่าวว่า แอร์โดอานเป็นผู้นำที่มีเสน่ห์ และน่าจะสานต่อความสำเร็จที่ทำมาในอดีต ทั้งเรื่องพลังงานและการทหาร ขณะที่สตรีวัย 20 ปีคนหนึ่งยืนยันว่า แอร์โดอานทำให้ชาวตุรกีมีเสรีภาพมากขึ้นด้วยการยกเลิกคำสั่งห้ามสตรีสวมฮิญาบในมหาวิทยาลัยและสถานที่ราชการ สวนทางกับวัยรุ่นหลายคนที่ประกาศว่าจะลงคะแนนให้ฝ่ายค้าน เพราะไม่พอใจเรื่องเงินเฟ้อที่สูงถึงร้อยละ 44 และเรื่องถูกปิดกั้นการแสดงออกทางการเมือง
ขณะเดียวกันกลุ่มสตรีสายอนุรักษนิยมที่เคยช่วยให้แอร์โดอานชนะเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 เมื่อเดือนมีนาคม 2546 ตามด้วยการได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 12 เมื่อเดือนสิงหาคม 2557 เริ่มสนับสนุนเขาน้อยลง นับตั้งแต่เขานำตุรกีออกจากอนุสัญญาอิสตันบูลที่ปกป้องสตรีจากความรุนแรงในครอบครัว นอกจากนี้เขายังเคยกล่าวถึงสตรีที่ไม่มีบุตรว่าเป็นสตรีแค่ครึ่งเดียว โดยแนะนำให้สตรีมีบุตรอย่างน้อย 3 คน และเห็นว่าชายหญิงไม่ควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน
#เลือกตั้งตุรกี