รมต.คลังสหรัฐฯ เตือนสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ กระทบเศรษฐกิจโลก

11 พฤษภาคม 2566, 19:27น.


          ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า การประชุมของรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่ม 7 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือกลุ่ม G7 คือ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น อังกฤษ และสหรัฐฯในเมืองนีงาตะ ทางภาคกลางของญี่ปุ่นในวันนี้ นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ขอให้สภาคองเกรสในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติสหรัฐฯพิจารณาเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะให้กับรัฐบาลโดยเร็ว เพื่อเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ



          พร้อมเตือนว่า การผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯจะมีผลกระทบร้ายแรงทางเศรษฐกิจและการเงิน ก่อให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวและเสี่ยงบั่นทอนความสามารถของสหรัฐฯในการแสดงภาวะผู้นำด้านเศรษฐกิจระดับโลก ทำให้เกิดข้อสงสัยในเรื่องขีดความสามารถของสหรัฐฯในการปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ



          นางเยลเลน กล่าวว่า การผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯจะทำลายความสำเร็จทุกอย่างทุกรัฐบาลทำงานอย่างยากลำบากเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวขึ้นมา หลังได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา



          การเพิ่ม หรือการพักเพดานหนี้สาธารณะของรัฐบาลไว้ชั่วคราวไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับฝ่ายนิติบัญญัติ  เนื่องจากฝ่ายนิติบัญญัติเคยเพิ่มเพดานหนี้มาแล้ว 80 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2503 พร้อมเรียกร้องอีกครั้งให้ฝ่ายนิติบัญญัติเร่งพิจารณาเรื่องนี้ให้เสร็จก่อนเงินคงคลังของรัฐหมดต้นเดือนมิถุนายนนี้



          รายงานซึ่งเผยแพร่ในสัปดาห์ที่แล้ว นักเศรษฐศาสตร์จากทำเนียบขาว ระบุว่า ในกรณีร้ายแรง เช่น การผิดนัดชำระหนี้ราว 3 เดือน จะกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทำให้บริษัทเอกชนในสหรัฐฯเลิกจ้างงานกว่า 8 ล้านตำแหน่ง และทำให้มูลค่าหุ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯลดลงครึ่งหนึ่ง ส่วนกรณีผิดนัดชำระหนี้ในระยะสั้น ต่ำกว่า 3 เดือน บริษัทเอกชนของสหรัฐฯอาจจะมีการเลิกจ้างงาน 200,000 ตำแหน่ง อีกทั้งจะทำให้จีดีพีของสหรัฐฯหดลงร้อยละ 0.3



#รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ



#เพิ่มเพดานหนี้สาธารณะ



#ผิดนัดชำระหนี้

ข่าวทั้งหมด

X