มติ 7:2 BoE ขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 แตะระดับ ร้อยละ 4.50 สูงที่สุดในรอบ 14 ปี

         ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติ 7-2 ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 0.25 สู่ระดับร้อยละ 4.50 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 ในการประชุมวันนี้ ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ BoE ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 12 ติดต่อกัน

          นอกจากนี้ BoE ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยระบุว่าเงินเฟ้อได้ปรับตัวลงช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ อันเนื่องจากการพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาอาหาร โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้นร้อยละ 10.1 ในเดือนมี.ค. โดยได้แรงหนุนจากราคาอาหารและพลังงาน

          ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จัดการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ พร้อมกับมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจ โดยคาดว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะไม่เผชิญภาวะถดถอยในปีนี้ ทั้งนี้ BoE คาดว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะมีการขยายตัวร้อยละ 0.25 ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนก.พ.ว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะหดตัวร้อยละ 0.5 ในปีนี้

          เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.72/74 บาท/ดอลลาร์จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.61 บาท/ดอลลาร์  เมื่อวานนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ เริ่มเข้าสู่ช่วงชะลอตัว พอเปิดตลาดเงินบาทจึงมีแรงซื้อขายทำกำไรเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เรทเงินบาทขยับขึ้นระหว่างวัน ด้านสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวในแนวแข็งค่า

          ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,567.40 จุด ลดลง 2.16 จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,780 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,629.53 ลบ. (SET+MAI)

          ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เดือนเม.ย. 66 อยู่ที่ระดับ 55.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 38 เดือน นับตั้งแต่มี.ค. 63 โดยมีปัจจัยจากการเลือกตั้ง และการท่องเที่ยวหนุนเศรษฐกิจ

          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลดลงในวันนี้ หลังจีนเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่อ่อนแอในเดือนเม.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ระดับ 19,743.79 จุด ลดลง 18.41 จุด

           ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวพลิกปิดบวกในวันนี้ โดยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีช่วยกลบปัจจัยลบจากแรงเทขายหุ้นต่าง ๆ ที่มีการคาดการณ์ผลกำไรอ่อนแอ ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 29,126.72 จุด เพิ่มขึ้น 4.54 จุด

#เศรษฐกิจโลก

#วิกฤตการเงิน