รมต.คลังสหรัฐฯขอให้สภาเร่งพิจารณาเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะให้เสร็จก่อนเงินคงคลังหมดเดือนหน้า

          นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับรายงานข่าว ABC News ของสถานีโทรทัศน์ ABC ของสหรัฐฯ ขอให้สภาคองเกรสในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯเร่งพิจารณาเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะให้รัฐบาล ก่อนเงินคงคลังของรัฐหมดราวต้นเดือนมิถุนายนนี้ ระบุว่า สภาคองเกรสสหรัฐฯมีภาระหน้าที่ต้องผลักดันเรื่องนี้ให้ผ่านการลงมติจากสภาโดยเร็ว ช่วยป้องกันไม่ให้ประเทศประสบวิกฤตร้ายแรงทางเศรษฐกิจและการคลัง

           นางเยลเลน เตือนว่า ระยะเวลาสำหรับการเจรจาเรื่องนี้ของที่ประชุมสภาคองเกรสเริ่มเหลือน้อยลงทุกขณะ อีกทั้งการเจรจาในประเด็นสำคัญๆเช่นนี้ไม่ควรรอไปจนถึงนาทีสุดท้ายแล้วสรุปข้อตกลงกัน เตือนว่า ถ้าสมาชิกสภาคองเกรสไม่มีข้อสรุปอย่างชัดเจนโดยเร็ว มีแนวโน้มสูงมากที่รัฐบาลสหรัฐฯจะไม่มีงบประมาณมาใช้จ่ายในการบริหารกิจการของภาครัฐ เช่น ไม่มีงบประมาณสำหรับการจ่ายค่าจ้าง ค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการสำหรับบุคลากรในภาครัฐและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งอาจจะเกิดผลกระทบเสียหายร้ายแรงต่อเศรษฐกิจและการคลังของประเทศ

          นางเยลเลน แสดงความเห็นเรื่องนี้ก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯนัดพบปะกับบรรดาแกนนำสภาคองเกรสจากพรรครีพับลิกันที่ทำเนียบขาวในวันพรุ่งนี้ เพื่อขอให้พวกเขาเห็นชอบกับข้อเสนอจากพรรคเดโมแครตในเรื่องการเพิ่มเพดานเงินกู้สูงกว่าปัจจุบันคือ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยปกติ สภาคองเกรสจะอนุมัติข้อเสนอเรื่องการเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะให้กับรัฐบาลโดยกำหนดข้อผูกพันต่างๆไว้ในแผนงบประมาณ และรายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณด้วย

           ที่ผ่านมา สหรัฐฯปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะมาแล้ว 78 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2503 ส่วนใหญ่เจรจาสำเร็จในนาทีสุดท้ายก่อนครบกำหนดการเจรจา ท้ายที่สุด ความเป็นกังวลว่า รัฐบาลสหรัฐฯอาจจะผิดนัดชำระหนี้ เป็นสาเหตุทำให้พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ยอมผ่อนสั้นผ่อนยาว ตกลงได้สำเร็จทุกครั้ง ที่ผ่านมา สหรัฐฯไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ มิฉะนั้นปัญหานี้อาจจะสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดทุนทั่วโลกและเกิดวิกฤตเศรษฐกิจร้ายแรง

#สหรัฐฯ

#เสนอเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะให้รัฐบาล