กระทรวงมหาดไทยแถลงผลงานในรอบ 6 เดือนตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2557-12 มีนาคม 2558 ภายใต้รัฐบาลของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในด้านการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น กระทรวงได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพลับพลาเขาดอกไม้ในพื้นที้โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ จ.เพชรบุรี โดยได้ออกแบบและก่อสร้างเรือนที่ประทับฯ และส่งมอบให้สำนักพระราชวังเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2558 รวมทั้งได้ก่อสร้างห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ให้โรงเรียนจังหวัดละ 1 แห่งเพื่อให้เด็กและประชาชนได้ใช้เป็นที่เรียนรู้ศึกษา ซึ่งได้ส่งมอบไปเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2558 แต่พบว่ายังขาดแคลนอุปกรณ์และหนังสือแบบเรียน จึงขอให้ผู้ที่มีกำลังหรือมีหนังสือแบบเรียนที่ไม่ใช้แล้ว นำมาบริจาคได้ที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อนำส่งไปยังโรงเรียนต่างๆ ให้เด็กมีหนังสืออ่านด้วย
ในด้านความมั่นคง กระทรวงได้มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ เพราะเป็นปัญหาหลักที่ส่งผลถึงเศรษฐกิจ เนื่องจากก่อให้เกิดปัญหาการโยกย้ายแรงงาน การลักลอบเข้าประเทศ จึงให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดขึ้นทะเบียนแรงงานเพื่อจัดสรรตลาดแรงงานและควบคุมแรงงานที่ถูกต้อง ทั้งแก้ไขปัญหาขอทานที่เป็นหนึ่งในการค้ามนุษย์ ด้วยการเสนอร่างพระราชบัญญัติการควบคุมการขอทาน พ.ศ.....ที่เพิ่งผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้
ขณะที่ปัญหาชายแดนภาคใต้ ถือว่าสถานการณ์ดีขึ้นและเชื่อว่าการทำงานของรัฐบาลมาถูกทางแล้ว รวมไปถึงทุ่งยางแดงโมเดลที่ได้ผลน่าพอใจ โดยการเน้นยุทธศาสตร์ "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา"เป็นหลักในการแก้ไขปัญหา
ในส่วนการปฎิรูปและการสร้างความปรองดองหลังจากที่มีความขัดแย้งมานานหลายปี จนเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจมหาศาล ซึ่งส่วนตัวมองว่าปัจจุบันก็มียังกลุ่มปลุกปั่นสร้างความเกลียดชัง ทั้งที่เราสามารถเห็นต่างได้ แต่ไม่ควรขัดแย้งกัน ทางกระทรวงฯ จึงได้จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฎิรูปใน 76 จังหวัด และให้เจ้าหน้าที่ในกระทรวงไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่
ส่วนในการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชนนั้น มีการจัดสรรที่ดินเพื่อให้ประชาชนใช้ประกอบอาชีพไปแล้วกว่า 58,000 ไร่ เป็นอีกมาตรการหนึ่งในการลดความเลื่อมล้ำ ซึ่งขณะเดียวกันยังได้เร่งจัดระเบียบพื้นที่สาธารณะ โดยยืนยันว่าจำเป็นต้องจัดระเบียบทั่วกรุงเทพมหานคร เพราะการที่ผู้ค้านำสินค้ามาวางขาย ส่งผลให้ประชาชนไม่มีทางเท้าเดินและเสียช่องทางจราจร
ส่วนการเตรียมพื้นที่รับรองการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีเตรียมผังพื้นที่แล้ว 6 จังหวัด ที่พบว่าราคาที่ดินในเขตเศรษฐกิจมีราคาสูงขึ้นมาก ขณะนี้ได้เข้าไปพัฒนาพื้นที่และประสานงานกับการไฟฟ้าและการประปาเพื่อเตรียมนำโครงสร้างพื้นฐานเต็มรูปแบบเข้าไปรองรับ ก่อนที่จะให้เอกชนเข้าไปร่วมลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษจะช่วยสร้างมูลค่าเศรษฐกิจได้จำนวนมากและจะช่วยพัฒนาสินค้าท้องถิ่นด้วย
ด้านผลงานการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน การไฟฟ้านครหลวงได้ติดตั้งโคมไฟ LED บนถนน 12 สายทั่วกรุงเทพฯ เป็นเนื้อที่กว่า 350 กิโลเมตร ขณะนี้แล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 30 ขณะที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ขยายพื้นที่ให้บริการไฟฟ้าไปแล้ว 30,154 ครัวเรือนและมีแผนจะขยายอีก 61,271 ครัวเรือนโดยกำหนดแล้วเสร็จสิ้นปีนี้ ด้านการประปานครหลวง ได้ลดค่าติดตั้งประปาใหม่ร้อยละ 10 และตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 ได้งดเว้นการเก็บค่าน้ำขั้นต่ำแก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ใช้น้ำต่ำกว่า 5 หน่วยต่อเดือน ขณะที่การประปาส่วนภูมิภาคได้ขยายเขตการใช้น้ำประปาให้ประชาชนอีกกว่า 241,400 ครัวเรือน
ส่วนการแก้ปัญหาภัยแล้งนั้น นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า เป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล หลังปีนี้พบพื้นที่ภัยแล้งกว่า 34 จังหวัด 10,000กว่าหมู่บ้าน โดยกระทรวงได้ทำงานเชิงรุกและออกสำรวจหมู่บ้านต่างๆและพื้นที่เกษตรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง และได้แก้ปัญหาโดยการนำน้ำอุปโภคบริโภคมาแจกจ่ายและพัฒนาระบบประปาหมู่บ้าน ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจและปีนี้ประชาชนไม่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ขณะที่การปรับภูมิทัศน์ในกรุงเทพมหานคร กระทรวงฯ เตรียมจะพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ช่วงสะพานพระราม 7 ถึงสะพานพระปิ่นเกล้าทั้งสองฝั่งรวมกว่า 14 กิโลเมตร เพื่อปรับใช้เป็นสวนสาธารณะพักผ่อนกับประชาชน นอกจากนี้กระทรวงยังจัดตลาดนัดชุมชนทั่วประเทศได้กว่า 1,202 แห่ง ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนกว่า 796 ล้านบาทเศษ ซี่งยังช่วยพัฒนาสินค้าท้องถิ่นและสินค้าโอท็อปด้วย โดยกระทรวงมีนโยบายมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าโอท็อป โดยการสร้างมูลค่าเพิ่มและการพัฒนาตลาดเชิงรุกใหม่ทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันกระทรวงได้ทำโครงการนำร่องแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยในจ.อยุธยา โดยได้ออกแบบโครงการไฟฟ้าจากขยะ และคาดว่าแบบแผนเบื้องต้นจะแล้วเสร็จช่วงเดือนพฤษภาคมนี้
ส่วนมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดนั้น กระทรวงมีมาตรการในสามระดับ คือการป้องกัน โดยการเสริมสร้างความเข้มแข็งใน 2,978 หมู่บ้านที่มีปัญหายาเสพติดรุนแรง การบำบัดผู้เสพยาเสพติด ที่บำบัดไปแล้วกว่า 37,370 คน รวมทั้งมีการติดตามผู้ผ่านการบำบัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือด้านอาชีพ ส่วนการปราบปรามนั้นในรอบ 6 เดือนสามารถจับกุมคดีได้ 2,774 คดี ผู้ต้องหา 3,187 คน และกระทรวงยังมีการติดตั้งไฟฟ้าสาธารณะตามจุดเสี่ยงรวมทั้งกล้องวงจรปิดทั่วกรุงเทพมหานครด้วย
ด้านศูนย์ดำรงธรรม นาย วิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่ 18 กรกฎาคม 2557-20เมษายน 2558 มีประชาชนแจ้งเรื่องมาทั้งสิ้น 942,875 เรื่อง ดำเนินการเสร็จ 900,520เรื่อง และได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น Spend ที่ใช้กับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของศูนย์ด้วย ในด้านการสร้างความโปร่งใส กระทรวงได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฎิบัติการป้องกันและปราบปรามการทุจริตกระทรวงมหาดไทย เพื่อป้องกันการทุจริต ซึ่งพล.อ. อนุพงษ์ ระบุว่า สามารถลงโทษไปหลายคดีแล้ว ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณท้องถิ่น มีการเบิกจ่ายจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2558 แล้ว 6,451 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20 ของรายจ่ายลงทุนทั้งหมด
....ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร