สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายวัย 21 ปี ก่อเหตุกราดยิงครั้งที่ 2 ในประเทศเซอร์เบีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 13 คน เหตุการณ์กราดยิงครั้งใหม่เกิดขึ้นใน 3 จุด ใกล้เมืองมลาเดโนวัค ห่างจากกรุงเบลเกรด เมืองหลวงราว 50 กม. เมื่อเวลา 23.00 น. ของวันพฤหัสบดี (4 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยมือปืนยิงไม่เลือกหน้าใส่ผู้คนด้วยปืนอัตโนมัติ สื่อทางการ รายงานว่า มือปืนอยู่ในยานพาหนะร่วมกับอีก 2 คน และเขาลงจากรถก่อนเปิดฉากยิงที่หมู่บ้านดูโบนา แล้วหนีไปเปิดฉากยิงต่อที่หมู่บ้านมาลี โอราสเจ และหมู่บ้านเซปซิน
หลังเกิดเหตุ ตำรวจระดมไล่ล่าคนร้ายตลอดทั้งคืน จนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่ถูกออกหมายจับ อูรอส บี ชายวัย 21 ปี มือปืนรายนี้ โดยเจ้าหน้าที่ปิดล้อมพื้นที่ที่เชื่อว่าผู้ต้องสงสัยหลบซ่อนตัวอยู่ และใช้เฮลิคอปเตอร์และกล้องตรวจจับความร้อนสนับสนุนการค้นหา จนสามารถจับกุมมือปืนได้แล้วใกล้เมืองครากูเยวัค ห่างจากเมืองมลาเดโนวัคในเช้าวันศุกร์ และเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเด็นการก่อการร้ายภายในประเทศ
เหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเด็กชายวัย 13 ปี เปิดฉากกราดยิงเพื่อนนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเบลเกรดในเช้าวันพุธ ทำให้นักเรียน 8 ราย และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก 1 ราย เสียชีวิต และยังมีเด็กอีก 6 คน และครู 1 คน ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นเหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียนครั้งแรกของประเทศ และเป็นเหตุการณ์ยิงสังหารหมู่ครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี
ประชาชนทั้งประเทศยังคงตกใจและเศร้าโศกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีนักเรียนและผู้ใหญ่หลายร้อยคนร่วมจุดเทียนและวางดอกไม้ไว้อาลัยเหยื่อที่โรงเรียนอย่างเนืองแน่นเมื่อวันพฤหัสบดี และทางการประกาศให้มีการไว้อาลัยทั่วประเทศนาน 3 วันเริ่มตั้งแต่วันศุกร์
อัยการระบุว่า มือปืนอาจไม่ถูกดำเนินคดีอาญา เพราะยังมีอายุไม่ถึง 14 ปี และประธานาธิบดีอเล็กซานดาร์ วูซิช เสนอว่า รัฐบาลควรปรับลดอายุผู้ที่ต้องรับผิดในคดีอาญาเหลือเพียง 12 ปี และแนะนำให้บังคับใช้มาตรการตรวจหาสารเสพติดในโรงเรียนทุก 6 เดือน รวมทั้งสั่งให้รัฐบาลจัดกำลังตำรวจรักษาความปลอดภัยในโรงเรียนเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้รัฐบาลเสนอเพิ่มมาตรการควบคุมการครอบครองปืนที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งปัจจุบันเซอร์เบียมีกฎหมายควบคุมปืนที่เข้มงวดอยู่แล้ว ทำให้ไม่ค่อยมีเหตุการณ์ยิงสังหารหมู่ในประเทศนัก แต่สถิติจำนวนผู้ครอบครองปืนในเซอร์เบีย สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกในปี 2562 ทั่วประเทศมีจำนวนปืน 39.1 กระบอกต่อประชาชน 100 คน มากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯ และมอนเตเนโกร
#กราดยิงเซอร์เบีย
CR:สำนักข่าวAFP