นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างร่วมการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) ครั้งที่ 56 ว่า ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าเศรษฐกิจในปี2566 นี้ชะลอตัวช้าลงจากปีที่ผ่านมา คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้ขยายตัวร้อยละ 2.8 จากนั้นปีหน้าขยายตัวร้อยละ 3 ส่วนในเอเชียคาดว่า ขยายตัวร้อยละ 4.4 -4.5 สำหรับเศรษฐกิจไทย และหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียที่เริ่มฟื้นตัวคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 3.6
ที่ประชุม ADB เห็นตรงกัน ในการเผชิญปัญหาการใช้จ่ายเพื่อรักษาเยียวยา ช่วยเหลือประชาชน และกระตุ้นเศรษฐกิจ จนทำให้มีภาระการพัฒนาประเทศ ต้องหาหนทางร่วมกันช่วยประเทศต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ทั้งความยากจนและความเหลื่อมล้ำ หลายประเทศต้องการความช่วยเหลือจากธนาคารADB
สำหรับไทย หลายโครงการต้องร่วมลงทุนกับภาคเอกชนแบบ PPP รัฐบาลไทยยังได้ออกพันธบัตรหรือกู้เงินภายในประเทศเพิ่มเติม ยอมรับอนาคต อาจต้องกู้เงินต่างประเทศแต่ขอประเมิน อัตราผลตอบแทนดอกเบี้ยในตลาดตราสารหนี้ ทั้งการออกพันธบัตรในตลาดอาเซียน หรือกู้จากธนาคารพัฒนาเอเชีย เพื่อระดมเงินทุนพัฒนาโครงการสีเขียว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ เริ่มรุนแรงเพิ่มมากขึ้น หลายประเทศยังขาดเงินทุนจึงต้องหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมรวมทั้งไทย
ด้านผลกระทบเสถียรภาพของสถาบันการเงินที่มีผลจากธนาคารจากสหรัฐอเมริกาปิดตัวลงไปหลายแห่ง อาจมีผลกระทบต่อในประเทศในเอเชีย ส่วนไทยไม่มีผลกระทบเพราะไม่ได้มีธุรกรรมกับธนาคารที่ถูกปิดในสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะเคยประสบปัญหาวิกฤติทางการเงินมาก่อนในปี 2540 ยืนยันว่าหน่วยงานที่กำกับดูแลคือธนาคารแห่งประเทศไทย ดูแลอย่างใกล้ชิด ทุนสำรองระหว่างประเทศมั่นคงมาก ยอดหนี้ NPL ของระบบค่อนข้างต่ำ จึงขอให้มั่นใจได้ว่าเสถียรภาพทางการเงินของไทยมั่นคง ไม่มีผลกระทบจากสหรัฐ และยุโรปอย่างแน่นอน
#ADB