ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 2-3 พ.ค. 66) สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท
-เงินบาทแกว่งตัวในกรอบแคบในช่วงแรก ก่อนจะพลิกแข็งค่าผ่านแนว 34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ไปแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ที่ 33.99 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนผลการประชุมเฟด เนื่องจากเงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขายตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังจากที่ข้อมูลการเปิดรับสมัครงานเดือนมี.ค. ของสหรัฐฯ ลดลงไปที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี นอกจากนี้การแข็งค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับสถานะซื้อสุทธิ พันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ และสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลกที่กลับขึ้นไปยืนเหนือแนว 2,000 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง
-สัปดาห์ระหว่างวันที่ 8-12 พ.ค. 2566 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.80-34.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์แบงก์ และปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ การเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาค ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนเม.ย. ของสหรัฐฯ และจีน ตลอดจนผลการประชุม BOE
สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
-หุ้นไทยร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปีที่ 1,507.22 จุด ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาก่อนปิดหยุดยาว ทั้งนี้หุ้นไทยเผชิญแรงกดดันในช่วงแรกจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาภาคธนาคารของสหรัฐฯ หลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการปิดกิจการของแบงก์ในสหรัฐฯ อีกราย ขณะที่การปรับตัวลงของราคาน้ำมันในตลาดโลกยังเพิ่มแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาตามแรงซื้อคืนหุ้นกลุ่มแบงก์ ไฟแนนซ์และวัสดุก่อสร้าง ก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของตลาดในประเทศ ประกอบกับนักลงทุนคาดว่า เฟดอาจส่งสัญญาณสิ้นสุดดอกเบี้ยขาขึ้นในการประชุมรอบนี้
-สัปดาห์ที่ 8-12 พ.ค. 2566 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,515 จุด และ 1,500 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,545 จุด และ 1,555 จุด ตามลำดับ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/66 ของบจ.ไทย ปัญหาธนาคารสหรัฐฯ และสถานการณ์การเมืองในประเทศ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนเม.ย. ของสหรัฐฯ และจีน ตลอดจนการประชุม BOE
#เงินบาท
#ตลาดหุ้นไทย
CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย KResearchCenter