เว็บไซต์เทเลกราฟ เปิดรายละเอียดกำหนดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรในวันที่ 6 พฤษภาคม 2566
เวลา 06.00 น. เปิดพื้นที่ตลอดแนวขบวนเสด็จจากพระราชวังบักกิงแฮมไปจนถึงมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ให้ประชาชนจับจองชมริ้วขบวน รวมระยะทาง 2.29 กิโลเมตร
เวลา 07.15-08.30น. อาคันตุกะที่ได้เชิญมาร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เริ่มทยอยเข้าไปยังสถานที่ประกอบพระราชพิธีคือ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ โดยผ่านจุดตรวจความปลอดภัยทางฝั่งสวนสาธารณะวิคตอเรียก่อน
เวลา 09.00 น.อาคันตุกะทั้งหมดเข้านั่งประจำที่ในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์
เวลา 09.00-10.45 น. ประมุขแห่งรัฐ ราชวงศ์ต่างชาติ พระบรมวงศานุวงศ์แห่งสหราชอาณาจักร ตัวแทนรัฐบาลต่างชาติ คณะรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร มุขมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรมาถึงมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์
เวลา 09.45 น. กองทหารม้ารักษาพระองค์ เริ่มจัดกำลังพลให้พร้อมปฏิบัติงานสำหรับขบวนพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจากพระราชวังบักกิงแฮม
เวลา 10.20น. เริ่มขบวนของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลาจากพระราชวังบักกิงแฮม มุ่งหน้ายังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ โดยประทับราชรถพัชราภิเษก ซึ่งสร้างขึ้นในออสเตรเลีย ใช้ครั้งแรกในงานฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2555
มีความสะดวกในการใช้งาน เช่น มีระบบกันสะเทือน ระบบทำความร้อน แสงไฟ หน้าต่างไฟฟ้าและมีเครื่องปรับอากาศ ใช้กำลังทหารจากกองทัพบก 200 คนร่วมริ้วขบวน โดยขบวนจะออกจากพระราชบังบักกิงแฮมผ่านประตูกลาง ผ่านถนนเดอะมอลล์ ผ่านซุ้มประตูแอดมิรัลตี อาร์ค
จากนั้น ขบวนจะมุ่งหน้าไปยังทางตอนใต้ของจัตรัสทราฟัลการ์ ก่อนเลี้ยวมุ่งหน้ายังถนนไวท์ฮอลล์ ถนนรัฐสภา ถึงมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ขณะเดียวกัน มีทหารจาก 3 เหล่าทัพกว่า 1,000 นายทำหน้าที่ถวายความปลอดภัยตามจุดต่างๆตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน
เวลา 11.00น. เริ่มพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลาจะเสด็จมาถึงประตูใหญ่ฝั่งตะวันตกของมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ในเวลา 10.53น. จากนั้น ทั้งสองพระองค์จะเสด็จขึ้นโบสถ์ โดยมี บิชอปแห่งเดอรัม และบิชอปแห่งบาธและเวลส์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยบิชอป ต้อนรับ มีการอัญเชิญเครื่องราชกกุธภัณฑ์เข้าไปยังด้านหน้าของมหาวิหาร
โดยอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี จะเป็นผู้นำการประกอบพระราชพิธี สำหรับขั้นตอนต่างๆมีดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 : รับรองฐานะความเป็นกษัตริย์
ขั้นตอนที่ 2 : ทรงกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ
ขั้นตอนที่ 3 : เจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์
ขั้นตอนที่ 4 : สวมพระมหามงกุฎ
ขั้นตอนที่ 5 : เสด็จขึ้นครองราชย์
ทหารประจำฐานทัพต่างๆทั่วสหราชอาณาจักร เช่น กรุงเอดินบะระ(สกอตแลนด์)กรุงคาร์ดิฟฟ์(เวลส์)และกรุงเบลฟาสต์(ไอร์แลนด์เหนือ) ตลอดถึงเรือหลวงของกองทัพเรือสหราชอาณาจักรที่แล่นอยู่ในทะเล ยิงสลุตถวายพระเกียรติในช่วงที่กษัตริย์ชาร์ลสที่ 3 ประทับนั่งบนราชบัลลังก์
ทหารกว่า 400 นาย จากฐานทัพ 13 แห่งและเรือหลวงของกองทัพเรือสหราชอาณาจักรยิงสลุต 21 นัด ยกเว้นที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอนจะมีการยิงสลุต 62 นัด และอีก 6 นัด จากลานสวนสนามของกองทหารม้ารักษาพระองค์
เสด็จกลับพระราชวังบักกิงแฮม
เวลา 13.00 น. ขบวนราชาภิเษกจะเสด็จจากมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์กลับยังพระราชวังบักกิงแฮม แต่เป็นเป็นขบวนที่ใหญ่กว่าตอนแรก ใช้กำลังทหารเกือบ 4,000 นายร่วมริ้วขบวนราชาภิเษก โดยสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลาจะประทับราชรถทองใหญ่ กลับยังพระราชวังบักกิงแฮม ซึ่งเป็นราชรถที่ใช้ในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในเดือนมิถุนายน 2565
เวลา 13.45 น.ยิงสลุตถวายพระเกียรติ
สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลาจะเสด็จถึงประตูฝั่งตะวันตกของพระราชวังบักกิงแฮม โดยกองพันทหารปืนใหญ่รักษาพระองค์ยิงสลุตถวายพระเกียรติ
เวลา 14.15 น.สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์แห่งสหราชอาณาจักรเสด็จออกสีหบัญชาในพระราชวังบักกิงแฮม เพื่อทอดพระเนตรการบินถวายพระเกียรติจากฝูงบินกว่า 60 ลำจาก 3 เหล่าทัพ ซึ่งจะบินผ่านเหนือพระราชวังบักกิงแฮม ปิดท้ายด้วยการแสดงของฝูงบินผาดแผลงแห่งกองทัพอากาศที่ได้รับฉายาว่า ลูกศรสีแดง (The Red Arrows)
#สหราชอาณาจักร
#กำหนดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
CR:เดอะเทเลกราฟ