นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการเข้าสู่ฤดูการระบาดของโรคทางเดินหายใจต่าง ๆ ทั้งโควิด-19 และ RSV โดยระบุว่า โรคโควิด-19 ได้ปรับเข้าสู่โรคประจำฤดูกาล เช่นเดียวกับโรคทางเดินหายใจอื่น ๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่ RSV,ไข้หวัด rhinovirus ซึ่งโรคประจำฤดูกาลดังกล่าวจะสร้างปัญหาได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง อายุมาก มีโรคประจำตัวและเด็กเล็ก
เห็นได้ชัดจากไข้หวัดใหญ่ RSV เมื่อติดเชื้อแล้วมีโอกาสเป็นซ้ำได้อีก เช่นเป็นปีนี้แล้วปีต่อไปหรืออีก 2 ปีต่อไปก็เป็นได้อีก แต่ถ้าร่างกายแข็งแรงความรุนแรงก็น้อย ในส่วนของไข้หวัดใหญ่ ถึงแม้จะมีวัคซีน ก็ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ดี จึงยังคงมีการระบาดทุกปีและมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ไปตลอด เช่นเดียวกับโควิด-19 เมื่อเป็นแล้วก็ยังเป็นซ้ำได้อีก ซึ่งโดยทั่วไปการเป็นครั้งที่ 2 และ 3 ความรุนแรงจะลดลงยกเว้นในกลุ่มเปราะบาง ส่วน RSV ความรุนแรงจะพบได้ในการเป็นครั้งแรกในเด็กขวบปีแรก หรือเด็กเล็ก จากนั้นปีต่อๆไป ความรุนแรงก็จะลดลง และจะไปพบความรุนแรงอีกครั้งหนึ่งในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว
ประเทศที่มีฤดูหนาว เช่น ซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ ก็จะพบโรคลักษณะนี้มากในฤดูหนาว ขณะที่ ประเทศไทยไม่มีฤดูหนาวที่ชัดเจน มีร้อนมากกับร้อนน้อย จึงพบโรคได้เกือบตลอดทั้งปี แต่จะพบสูงสุดในฤดูฝน ตั้งแต่ปลายพฤษภาคมจนถึงเดือนกันยายน
นพ.ยง ระบุว่า โรคทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ RSV โควิด-19 ก็มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ไปตลอดเช่นเดียวกัน เพื่อหลบหลีกภูมิต้านทานเดิม และทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำใหม่ได้ แต่ถ้าร่างกายแข็งแรงดีความรุนแรงก็จะน้อยหรือไม่มีอาการ ดังนั้น การดูแลร่างกาย ให้แข็งแรง มีสุขอนามัย จะป้องกันการติดเชื้อและลดการระบาดของโรค รวมทั้งการให้วัคซีนป้องกันในกลุ่มเสี่ยงและเปราะบาง จึงเป็นวิธีการที่จะลดความสูญเสียของโรคดังกล่าว แต่ RSV ยังไม่มีวัคซีนในการป้องกัน ถึงแม้จะมีการได้พยายามพัฒนากันมาเป็นเวลานานหลายสิบปีแล้วก็ตาม
#หมอยง
#โควิด19
#RSV