ยูเอ็น ห่วง สู้รบในซูดาน ก่อให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรม

          เอเอฟพีรายงานว่า ยังคงมีการสู้รบอย่างดุเดือดในกรุงคาร์ทูม ซูดาน ระหว่าง ทหารจาก 2 ฝ่ายที่รบกันคือ กองทัพบกและกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว (RSF) แม้ว่าทั้งสองฝ่ายตกลงพักรบชั่วคราว 72 ชั่วโมงตั้งแต่เมื่อวาน ขณะเดียวกัน หลายฝ่าย รวมถึงนายอับดู เดียง (Abdou Dieng) เจ้าหน้าที่องค์กรการกุศลระดับสูงของสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ประจำซูดาน เตือนว่า สถานการณ์ในซูดานอาจจะบานปลายถึงขั้นเป็นหายนะทางด้านมนุษยธรรมอย่างเต็มรูปแบบ มีผู้อพยพหลายแสนคนหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

          ชาวบ้านคนหนึ่งในแถบตอนใต้ของกรุงคาร์ทูมเปิดเผยถึงสถานกาณ์การสู้รบในวันนี้ว่า เขาได้ยินเสียงปืนเป็นระยะๆ ทั้งได้ยินเสียงเครื่องบินรบบินผ่านและการจรวดต่อสู้อากาศยานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การปะทะกันในซูดานเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน หลังเกิดความตึงเครียดในเรื่องการบริหารจัดการกองทัพระหว่าง 2 ผู้นำคือ พลเอก อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้บัญชาการกองทัพซูดานและพลเอก โมฮัมเหม็ด ฮัมดัน ดากาโล หรือที่รู้จักกันในนาม เฮเมดตี ผู้บัญชาการกองกำลัง RSF มีคนเสียชีวิต 528 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 4,600 คนจากการโจมตีทางอากาศและการปะทะกันด้วยปืนใหญ่

          ชาวซูดานหลายพันคนทยอยอพยพเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หลายคนไม่สามารถเดินทางไปถึงชายแดนของซูดาน ต้องปักหลักอาศัยอยู่ในกรุงคาร์ทูม ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ราว 5 ล้านคน ทั้งเริ่มขาดแคลนอาหาร น้ำและกระแสไฟฟ้า

          ด้านประธานาธิบดีวิลเลียม รูโตของเคนยา เพื่อนบ้าน กล่าวว่า การปะทะกันระหว่างทหารจากทั้งฝ่ายของซูดานมาถึงจุดที่อาจจะเกิดหายนะครั้งใหญ่ในด้านมนุษยธรรม หลังผู้นำทัพจากทั้งสองฝ่ายของซูดานปฏิเสธที่จะทำตามข้อเสนอพักรบชั่วคราวที่เสนอโดยหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างรัฐบาล (IGAD) สหภาพแอฟริกาและประชาคมระหว่างประเทศ

          ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา มีการอพยพชาวต่างชาติหลายพันคนจากซูดานโดยทางเครื่องบินและทางเรือ ด้านกองทัพรัสเซียเปิดเผยในวันนี้ว่า เครื่องบิน 4 ลำของกองทัพรัสเซียลำเลียงชาวรัสเซียกว่า 200 คนจากซูดาน

#ซูดาน

#วิกฤตมนุษยธรรม