ครม.เห็นชอบงบฯ ช่วยค่าไฟ นายกฯ แจง หาก กกต. พิจารณาเร็ว น่าจะทันพ.ค.

02 พฤษภาคม 2566, 14:27น.


          การเสนอมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ลดค่าไฟฟ้าช่วยเหลือประชาชน ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมครม. ว่า ในที่ประชุม ครม.วันนี้ ได้พิจารณาเรื่องการขอใช้งบกลางช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางเรื่องค่าไฟฟ้า จำนวน 1.1 หมื่นล้านบาทแล้ว โดย ครม.ได้ให้ความเห็นชอบ และจะส่งให้ กกต. ดำเนินการพิจารณาต่อไป ในเรื่องการใช้งบกลางหมื่นกว่าล้านบาท ส่วน กกต.จะส่งกลับมาทันหรือไม่นั้น เชื่อว่า จะเร็ว เพราะในเบื้องต้นก็ขอให้ทำถูกต้องตามขั้นตอน ให้ตรงกับมาตรา 169 ของรัฐธรรมนูญ เท่าที่รับทราบสิ่งใดที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนก็ไม่น่าจะมีปัญหา



          ส่วนจะทันในรอบบิลเดือน พ.ค.66 นี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คงต้องรอหน่อย แต่เชื่อว่าจะเร็วที่สุด ถ้าเร็วก็คงทัน และคาดการณ์ว่า ในเดือนหน้า (มิ.ย.66) สถานการณ์คงดีขึ้น การใช้ไฟคงลดลง ราคาค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน คงจะลดลงบ้าง ซึ่งจะมีผลในช่วงต่อไป ถือเป็นการชดเชยกันไปมา



          ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี  เห็นชอบขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 11,112 ล้านบาท เพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าของประชาชน  และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อไป  โดยแบ่งเป็น 2 มาตรการ คือ



 



1. สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย  ที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ของการไฟฟ้านครหลวง  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  รวมทั้งผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย  และผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่บริการของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ   จะได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าแบบขั้นบันได เป็นเวลา 4 เดือน สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2566 จนถึงเดือนสิงหาคม 2566 วงเงินประมาณ 7,602 ล้านบาท



 



2. มาตรการช่วยเหลือประชาชนระยะเร่งด่วน  เป็นมาตรการช่วยเหลือประชาชนในส่วนของค่าไฟฟ้า  สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ของการไฟฟ้านครหลวง  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  รวมทั้งผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย   และผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่บริการของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ  โดยการลดค่าไฟฟ้าในรอบบิลเดือนพฤษภาคม 2566 จำนวน 150 บาทต่อราย จำนวนประมาณ 23.40 ล้านราย ใช้งบประมาณรวมในกรอบไม่เกิด 3,510 ล้านบาท



 



          ทั้ง 2 มาตรการที่กระทรวงพลังงานนำเสนอนี้  เป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 169(3) ที่กำหนดให้ ไม่ให้กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติให้ใช้จ่ายงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อน   รวมทั้งเป็นไปเพื่อรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศและช่วยบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าของประชาชน



 



#ลดค่าไฟฟ้า



แฟ้มภาพ



 

ข่าวทั้งหมด

X