กรมศุลสกัดจับงาช้างครั้งประวัติศาสตร์ จากคองโกถึงลาวมูลค่ากว่า 200ลบ.*

20 เมษายน 2558, 16:37น.


การลักลอบค้างาช้าง ดร.สมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าวจับกุมงาช้างแอฟริกา จำนวน 739 กิ่ง น้ำหนัก 4,000 กก. รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท บรรจุอยู่ในกระสอบปนกับเมล็ดถั่วใส่ตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกลงเรือเดินสมุทร ก่อนหน้านี้ได้รับรายงานจากสายข่าวว่า ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวถูกบรรจุสินค้าที่เมืองมาตาดี สาธารณรัฐคองโก เมื่อวันที่ 2 ก.พ. และนำลงเรือล่องแม่น้ำคองโก ผ่านท่าเรือมาเลเซีย และมาถึงท่าเรือกรุงเทพเมื่อวันที่ 18 เม.ย. สำแดงสินค้าเป็นถั่วจำนวน 14,000 กก. และแจ้งใช้สิทธิ์ขนส่งสินค้าผ่านแดน ที่ด่านศุลกากรช่องเมก จ.อุบลราชธานี โดยมีผู้รับปลายทางที่ สปป.ลาว ชื่อบริษัท มณีสุข เทรดดิ้ง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและยึดไว้เป็นของกลาง ตามความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร และพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า งาช้างเป็นสินค้าต้องห้ามผ่านประเทศตามอนุสัญญาไซเตส ว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชที่ใกล้สูญพันธุ์



อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย โดยข้อมูลการสืบสวนเชื่อได้ว่า เป็นขบวนการของกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ เมื่อผ่านแดนไปถึง สปป.ลาว จะมีการจำหน่ายให้กับกลุ่มผู้ซื้อในประเทศจีน เวียดนาม และกลับมาประเทศอย่างแน่นอน สำหรับของกลางที่ยึดได้ หลังจากนี้ส่งต่อให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน และจะมีการสืบสวนหาผู้กระทำความผิดต่อไป ส่วนบริษัท มณีสุข เทรดดิ้ง จะถูกขึ้นแบล็คลิสท์ของประเทศไทยทันที





สำหรับของกลางงาช้างที่นำมาแสดงในวันนี้ ถูกแกะออกมาจากกระสอบที่มีถั่วสีแดงบรรจุเต็มกระสอบ มีมากมายหลายขนาดตั้งแต่ความยาวเพียง 6 นิ้ว ไปจนถึงขนาดใหญ่ลักษณะสวยงามที่มีน้ำหนักกว่า 10 กก. หากนำไปขายจะได้ 3,000 บาทต่อกก. ขึ้นอยู่กับความสวยงาม



ในวันพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่กรมอุทยานฯ เปิดให้ขึ้นทะเบียนการครอบครองงาช้างบ้านทุกชนิดและทุกขนาด ตามพ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558 หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ ไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยเฉพาะร้านค้างาช้างจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ

ข่าวทั้งหมด

X