นายมิคาอิล ราซโววาเยฟ ผู้ว่าการเมืองเซวัสโตปอล เมืองท่าสำคัญของคาบสมุทรไครเมีย เปิดเผยว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้รุนแรง ที่คลังน้ำมันสำรองขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ในเมืองเซวัสโตปอล เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยเพลิงไหม้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,000 ตารางกิโลเมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว และไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และยังไม่มีฝ่ายใดออกมายอมรับว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุเพลิงไหม้คลังน้ำมันในครั้งนี้ แต่นายมิคาอิล ราซโวซาเยฟ ผู้ว่าการเมืองเซวัสโตปอล กล่าวโทษว่ายูเครนเป็นผู้ก่อเหตุครั้งนี้ โดยเขาระบุว่า ฝ่ายตรงข้ามใช้โดรนเพียงลำเดียว ปฏิบัติการโจมตีคลังเชื้อเพลิงในตอนเช้า แบบไม่ให้ทันตั้งตัว แต่นักดับเพลิงของรัสเซียควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้รุนแรงไว้ได้ จนสามารถป้องกันไม่ให้เกิดมหันตภัยเลวร้ายแก่ชาวเมือง
ด้านสำนักข่าว Reuters รายงานว่า การโจมตีดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ยูเครนเตรียมปฏิบัติการโต้กลับครั้งใหญ่ เพื่อผลักดันให้กองกำลังรัสเซีย ให้ล่าถอยออกจากดินแดนของยูเครนที่ยึดครองไปได้ หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ตัดสินใจส่งกองกำลังทหารบุกเข้าโจมตียูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 และเหตุโจมตีคลังน้ำมันของรัสเซียแห่งนี้ เกิดขึ้นไม่นาน หลังรัสเซียเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหลายเมืองใหญ่ทั่วยูเครน เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 26 คน ในจำนวนนี้ เป็นเด็กถึง 5 คน
ขณะที่นายอังเดร ยูซอฟ เจ้าหน้าที่ทหารของยูเครน ไม่ได้ออกมายืนยันว่า ยูเครนเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีคลังน้ำมันดังกล่าว แต่เขาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RBC ว่า เหตุไฟไหม้ใหญ่ที่เกิดขึ้นเป็น ‘การลงโทษของพระเจ้า’ ต่อกรณีที่รัสเซียโจมตีเมืองอูมาน ของยูเครนเมื่อวันศุกร์ จนคร่าชีวิตผู้คนไป 23 คน ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวว่า ยูเครนจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ผู้ที่รับผิดชอบต่อการโจมตีเมืองอูมานมารับโทษโดยเร็วที่สุด
สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ยังคงมีความรุนแรงต่อเนื่อง โดยสำนักเลขาธิการสหประชาชาติ เปิดเผยตัวเลขประชาชนในประเทศยูเครนที่เสียชีวิต ซึ่งมีอย่างน้อย 8,500 คน นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้วอีกด้วย
#รัสเซียยูเครน
CR ภาพข่าว Reuters