*นายกฯใช้ม44 ไม่เพิ่มกก.กสทช. กำชับก.เสนอค.เห็นในร่างรธน.*

20 เมษายน 2558, 15:34น.


หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.ต. สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. ในวันนี้นายกฯในฐานะหัวหน้าคสช.ยังมีการใช้อำนาจม. 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวแห่งราชอาณาจักรไทย มีคำสั่งไม่เพิ่มคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติหรือกสทช. ที่ลาออกไปก่อนจำนวน 1 คน โดยได้ให้คณะกรรมการที่เหลือ 11 คนทำหน้าที่ไปจนครบวาระ นอกจากนี้ครม.ได้เห็นชอบให้จัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนให้เจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อพิจารณาค่าตอบแทนให้เหมาะสม หลังพบว่าค่าตอบแทนปัจจุบันมีความเหลื่อมล้ำ เช่นค่าตอบแทนระหว่างนายกฯกับประธานศาลฎีกาที่นายกฯมีค่าตอบแทนน้อยกว่า แต่จะให้มีผลบังคับใช้ในรัฐบาลหน้ามิใช่รัฐบาลนี้ เพือป้องกันข้อครหา



กำชับในที่ประชุมให้คณะรัฐมนตรีทุกคนไปศึกษาร่างรัฐธรรมนูญทุกมาตราให้รอบคอบ เพราะครม.และคสช.ต้องพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจัดทำแล้วเสร็จเช่นเดียวกับสภาปฎิรูปแห่งชาติที่พิจารณาอยู่ โดยนายกฯได้กำชับให้ดูว่า จะแก้ไขปัญหาในอดีตได้หรือไม่ และจะนำภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกับหน่วยงานรัฐได้อย่างไร โดยกำชับว่า ต้องกำหนดวิธีการที่ชัดเจนในการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมทั้งกำชับให้ดูว่าประชาชนจะได้สิ่งใดจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พร้อมสั่งให้เจ้ากระทรวงทุกกระทรวงไปรวบรวมความเห็นและสิ่งที่เห็นว่าควรแก้ไขในรัฐธรรมนูญมาเสนอต่อนาย วิษณุ เครืองาม ภายในวันที่ 14 พฤษภาคม 2558 และในวันที่ 19 พฤษภาคม จะนัดประชุมระหว่างคสช.-ครม.เพื่อพิจารณาประเด็นดังกล่าวก่อนที่จะส่งหนังสือและตัวแทนไปชี้แจงกับคณะกรรมาธิการยกร่างฯถึงประเด็นร่างรัฐธรรมนูญต่อไป



นายกฯยังได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการระยะเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาความปลอดภัยด้านการบินหลังจากที่การแก้ไขปัญหาของไทยในเบื้องต้นยังไม่เป็นที่พอใจและผ่านการพิจารณาขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศหรือ  ICAO โดยนายกฯได้สั่งให้เร่งแก้ไขในระยะสั้นก่อนและจะต้องมีมาตรการแก้ไขระยะยาว อย่างไรก็ดีในวันที่ 15 มิถุนายน 2558 รัฐบาลได้ส่งนาย อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมไปชี้แจงกับประธานไอเคโอ้ด้วยตัวเองแล้ว



ขณะเดียวกันในวันนี้พล.อ. อนันตพร กาญจนรัตน์  ประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐหรือคตร. ได้รายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานรัฐที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณมากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไปต่อนายกรัฐมนตรีด้วยว่า มีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้วทั้งสิ้นกว่าร้อยละ 29.08 ของงบประมาณทั้งหมด และถือว่าเป็นไปตามเป้าที่รัฐบาลวางไว้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขี้น 



ด้านกระทรวงพาณิชย์ได้รายงานผลการส่งออกล่าสุดในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ พบว่าประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลกเช่น จีน ฝรั่งเศส สิงคโปร์ ต่างมีดัชนีการส่งออกลดลง เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ลดลงราวร้อยละ 2.43 แต่ยืนยันว่าไทยยังรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้เท่าเดิม

ข่าวทั้งหมด

X