อดีตรองปธน.เพนซ์ ให้การต่อคณะลูกขุน คดีเลือกตั้งสหรัฐฯปี 63

           สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสฯที่ 27 เมษายน 2566 อดีตรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ของสหรัฐฯ ในสมัยที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้าให้การในฐานะพยานนานกว่า 5 ชั่วโมง ต่อคณะลูกขุนใหญ่ของรัฐบาลกลางที่สอบสวนผลของการเลือกตั้งเมื่อปี 2563 และการกระทำของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ที่พยายามจะล้มการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ซึ่งวันดังกล่าวกลุ่มผู้สนับสนุนนายทรัมป์ ได้บุกเข้าไปในสภาคองเกรส หวังล้มผลเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 โดยขัดขวางวุฒิสภาในการประชุมรับรองให้นายโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี

           การเข้าให้การของนายเพนช์ มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะที่ โฆษกของนายเพนซ์ ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น

           CNN รายงานว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายทรัมป์แพ้การอุทธรณ์ที่ขัดขวางนายเพนซ์จากการเป็นพยานในการสอบสวนคดีนี้

           ย้อนไปเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ นายเพนซ์ เปิดเผยว่า เขาจะไม่อุทธรณ์คำตัดสินของผู้พิพากษาที่กำหนดให้เขาต้องให้การเป็นพยานต่อคณะลูกขุนใหญ่ของรัฐบาลกลางเกี่ยวกับการสนทนากับนายทรัมป์ ที่นำไปสู่การบุกเข้าไปในสภาคองเกรส

          คำให้การดังกล่าวถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญยิ่งในการสืบสวนคดีอาชญากรรม และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ที่รองประธานาธิบดีเป็นพยานเกี่ยวกับประธานาธิบดีที่ทำงานด้วย และเป็นช่วงสำคัญที่นายทรัมป์ ประกาศตัวลงสมัครชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯในปีหน้า และมีคดีเรื่องการจ่ายเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ที่เมื่อช่วงต้นเดือน เมษายน 2566 นายทรัมป์ ได้เดินทางไปขึ้นศาลอาญาเขตแมนฮัตตัน ในนครนิวยอร์ก หลังจากถูกคณะลูกขุนใหญ่ ตัดสินฟ้องร้อง คดีเกี่ยวกับการจ่ายเงินปิดปากสตอร์มี แดเนียลส์ ดาราหนังผู้ใหญ่ ราว 130,000 ดอลลาร์สหรัฐ (4.4 ล้านบาท) เพื่อให้เธอปิดปากเงียบเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับนายทรัมป์ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016 

#ไมค์เพนซ์ 

CR:The Wall Street Journal,Reuters,CNN,AP